กรมทะเบียนการค้ารายงานสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงปี 2541

กรุงเทพ--26 ม.ค.--กรมทะเบียนการค้า นายนรวัฒน์ สุวรรณ เปิดเผยว่าในปี 2541 ที่ผ่านมา โรงกลั่นโรงแยกก๊าซธรรมชาติสามารถผลิตน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี ได้เฉลี่ยวันละ 112 ล้านลิตร หรือ 704,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 6 ทั้งนี้เป็นผลจากโรงกลั่นได้ลดกำลังการผลิตลงตามความต้องการใช้ที่ลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเป็นการผลิตลดลงทุกชนิด ซึ่งน้ำมันชนิดสำคัญที่ลดลงได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วผลิตวันละ 45 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 4 น้ำมันเตาวันละ 21 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 11 น้ำมันเบนซินวันละ 24 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 5 และก๊าซแอลพีจีวันละ 6,000 เมตริกตัน ลดลงร้อยละ 4 นอกจากการผลิตภายในประเทศแล้วได้มีการนำเข้าน้ำมันบางชนิดมาจากต่างประเทศ เฉลี่ยวันละ 4 ล้านลิตร หรือ 23,897 บาร์เรล/วัน ลดลงจากปีก่อนถึงร้อยละ 54 นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าน้ำมันดิบวันละ 109 ล้านลิตร หรือ 684,346 บาร์เรล/วัน สำหรับความต้องการใช้ของประเทศมีปริมาณเฉลี่ยวันละ 101 ล้านลิตร หรือ 636,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 10 ความต้องการใช้น้ำมันชนิดที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ววันละ 41 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 13 น้ำมันเตาวันละ 22 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 13 น้ำมันนเบนซินวันละ 20 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 2 น้ำมันนนเจ.พี 1 วันละ 9 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 6 และก๊าซแอลพีจีวันละ 4,700 เมตริกตัน ลดลงร้อยละ 2 ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันเตาลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศราฐกิจโดยตรง สำหรับน้ำมันเตาลดลงในส่วนของการนำไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า โดยลดลงร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรมมีการใช้ไฟฟ้าลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ จากการที่ปริมาณการผลิจมีมากกว่ความต้องการใช้ภายในประเทศเกือบ 100,000 บาร์เรล/วัน ทำให้มีการส่งออกน้ำมันไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้เฉลี่ยร้อยละ 15 ล้านลิตร หรือ 95,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 5 การส่งออกที่ลดลงเป็นผลจากภาวะการแข่งขันในตลาดต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง เนื่องจากปริมาณการผลิตของโลกมีมากกว่าความต้องการใช้เช่นเดียวกัน โดยกว่าร้อยละ 50 เป็นการส่งออกของโรงกลั่นน้ำมันเพื่อส่งไปยังประเทศสิงคโปร์ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในแถบอินโดจีน นอกจากนี้อธิบดีกรมทะเบียนการค้ายังได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกในปี 2541 ที่ผ่านมาว่า น้ำมันดิบมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 12-14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากปี 2540 ประมาณ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทั้งนี้เป็นผลจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันของโลกตกต่ำลง ประกอบกับน้ำมันดิบมีปริมาณสำรองเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก แม้ว่ากลุ่มโอเปคจะมีมาตรการลดปริมาณการผลิตลง 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงกลางปีก็ตาม แค่ปริมาณการผลิตก็ยังลดลงไม่เท่ากับความต้องการที่ลดลง ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 11-18 เหรีญสหรัฐ-บาร์เรล ลดลงจากปี 2540 ประมาณ 5-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เช่นเดียวกับน้ำมันดิบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคแถบเอเชียลดลง ทำให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ในภาวะล้นตลาด ประกอบกับฤดูหนาวปีนี้อากาศไม่หนาวเย็นมากเท่ากับปีก่อน ๆ ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาขายปลีกภายในประเทศในปี 2541 ที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2540 โดยราคาน้ำมันเบนซินมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 11.86 บาท/ลิตร น้ำมันก๊าด 11.39 บาท/ลิตร น้ำมันเตา 6.66 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้นลิตรละ 1.38, 0.32, และ 1.03 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้เป็นผลจากรัฐบาลได้ปรับภาษีสรรพากรสามิตและภาษีเทคบาลของน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นรวมกัน 1.21 บาท/ลิตร เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับค่าเงินบาทได้ปรับตัวแข็งขึ้นเกือบ 10 บาท/เหรียญสหรัฐ รวมทั้งผุ้ค้าน้ำมันได้ปรับค่าการตลาดเพิ่มขึ้นด้วย ยกเว้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีราคาเลี่ย 9.19 บาท/ลิตร ลดลง 30 สตางค์/ลิตร เนื่องจากภาวะแข่งขันในตลาดน้ำมันมีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา--จบ--

• ข่าวโรงแยกก๊าซธรรมชาติ
• ข่าวน้ำมันเชื้อเพลิง
• ข่าวน้ำมันสำเร็จรูป
• ข่าวสถานการณ์น้ำมัน
• ข่าวนรวัฒน์ สุวรรณ