ธ.ก.ส. ระดมกำลังสาขานำนโยบายฝ่าวิกฤติ

กรุงเทพ--8 เม.ย.--ธ.ก.ส. ธ.ก.ส. จัดประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ ชู 5 มาตรการหลักฝ่าวิกฤตทางเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มบริการที่ดีและยกระดับรายได้เกษตรกร นายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ธ.ก.ส. ได้จัดประชุมผู้บริหารและผู้จัดการสาขาระดับจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรับทราบมาตรการและนโยบาย สำหรับนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลในทิศทางเดียวกัน ได้แก่ มาตรการการบริหารคุณภาพสินเชื่อ ซึ่งจะเน้นหนักไปที่การจัดชั้นลูกค้าและกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน โดยพิจารณาจากพฤติกรรมการชำระหนี้ที่ตรงเวลา การระดมทุนหรือการฝากเงินไว้กับ ธ.ก.ส. อย่างสม่ำเสมอ การมีหลักประกันที่มั่นคง รวมถึงรูปแบบการจัดการด้านการลงทุนและการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยเกษตรกรและกลุ่มลูกค้าที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะได้รับการสนับสนุนจาก ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษทางด้านเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรน มาตรการที่ 2 คือ การระดมทุน ซึ่งนอกจากจะมีการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและลูกค้าแล้ว สาขาในแต่ละพื้นที่จะต้องรณรงค์ให้กลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีอยู่กว่า 300,000 กลุ่มทั่วประเทศเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการระดมทุน เพราะหากปล่อยให้เป็นภาระของ ธ.ก.ส. แต่เพียงฝ่ายเดียว เมื่อมีปัญหาในด้านการตลาดการเงิน ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนเงินแพง ภาระเหล่านี้ก็จะย้อนกลับไปสู่เกษตรกรในรูปดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะต้องสูงขึ้น ฉะนั้น ต้องมองแบบเชื่อมโยงว่า ภาคเกษตรจะเติบโตได้ก็ต้องอาศัยคนในภาคเกษตรช่วยกันเอง มาตรการที่ 3 ในด้านการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) และบริษัทไทยธุรกิจเกษตร จำกัด (TABCO) นั้น ธ.ก.ส. จะร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ระดมความคิดเพื่อปรับปรุงงานสหกรณ์ให้ดำเนินการอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของ สกต.จะเน้นในเรื่องหลักการคือ รวมกันซื้อรวมกันขายและรวมกันให้บริการ เพื่อให้เกิดอำนาจต่อรองทางการตลาดอย่างแท้จริง ส่วน TABCO ให้ลดขนาดลงมาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานทางด้านธุรกิจให้ สกต. โดยให้ สกต.มีส่วนร่วมมากกว่าเป็นผู้ทำตาม TABCO มาตรการที่ 4 การลดค่าใช้จ่ายของ ธ.ก.ส. เพื่อสนองตอบนโยบายกระทรวงการคลัง โดยตัดค่าใช้จ่ายที่คิดว่าไม่กระทบต่อการดำเนินงานลงประมาณร้อยละ 5 การงดรับบุคลากรเพิ่ม นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเรื่อง รี เอ็นจิเนียริ่ง ธ.ก.ส. จะนำระบบบัญชีแบบรวมศูนย์ มาใช้แทนระบบเดิมและจัดทำระบบงานสินเชื่อใหม่ ซึ่งคาดว่าจะลดขั้นตอนการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายด้านบัญชีได้ประมาณ 30-40% ส่วนมาตรการสุดท้ายคือ การปรับโครงสร้างสาขาและโครงสร้างตำแหน่งให้สอดคล้องกับระบบใหม่ที่จะนำมาใช้ อันจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการบริการให้เกษตรกรลูกค้าต่อไป--จบ--

• ข่าวธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
• ข่าวธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
• ข่าวธนาคารเพื่อการเกษตร
• ข่าวการเกษตรและสหกรณ์
• ข่าวพิทยาพล นาถธราดล