กรุงเทพ--9 เม.ย.--คอตโต้
บริษัทสยามซานิทารีแวร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ระดับโลก "คอตโต้" เผยแผนการดำเนินงานปี 41 มุ่งผลิตสินค้าคุณภาพควบคู่บริการครบวงจร สนองผู้บริโภคทุกระดับ ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คอตโต้ ดูอัล ฟลัช วาล์ว โถสุขภัณฑ์ไฮเทคประหยัดน้ำที่สามารถเลือกใช้น้ำได้ทั้ง 3 ลิตรและ 6 ลิตรเป็นรายแรกของประเทศ พร้อมผลักดันส่งออกสินค้าเจาะตลาดใหม่
นายนิพนธ์ ธีรนาทสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด ในกลุ่มเซรามิก เครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดสุขภัณฑ์ในปี 2541 ว่า จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้สินค้าสุขภัณฑ์มีเกินความต้องการของตลาด ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตการบริการ และส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศ เพื่อลดความกดดันด้านการแข่งขันในประเทศ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เริ่มปรับตัวตั้งแต่ปี 2540 ที่ผ่านมา ด้วยการมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายยิ่งขึ้น ชะลอโครงการลงทุนใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ครบวงจรเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า ตอบสนองลูกค้าในทุกระดับทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
บริษัทฯ ได้คิดค้นและพัฒนาสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำรุ่นล่าสุด "คอตโต้ ดูอัล ฟลัช วาล์ว" ที่สามารถเลือกใช้น้ำได้ทั้ง 3 ลิตร และ 6 ลิตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเป็นรายแรกของประเทศ นอกจากนี้ ยังได้จัดโครงการส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปี อาทิ โครงการคอตโต้ คลินิก โดยจัดทีมการตลาดเดินสายให้คำปรึกษาปัญหาสุขภัณฑ์แก่ลูกค้าที่ร้านผู้แทนจำหน่ายของเครือซิเมนต์ไทยทั่วประเทศ โครงการคอตโต้ เดย์ ร่วมกับผู้ผลิตก๊อกน้ำ อุปกรณ์ในห้องนี้ และกระเบื้องปูพื้นบุผนัง คอตโต้ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ พร้อมให้ปรึกษาเรื่องห้องน้ำโดยเฉพาะ และโครงการรณรงค์ให้ลูกค้าใช้โถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ โดยสมนาคุณอุปกรณ์ประกอบห้องน้ำฟรี
นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนส่งออกสุขภัณฑ์ไปจำหน่ายต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ของกำลังผลิตทั้งหมด โดยเน้นรักษาฐานตลาดเดิม คือ จีน และประเทศในภูมิภาคอาเซียน และบุกเบิกตลาดใหม่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ อเมริกา นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนส่งเสริมการขายอย่างจริงจังในตลาดที่บริษัทฯ ส่งสินค้าเครื่องหมายการค้าคอตโต้ไปจำหน่าย อีกทั้งมีนโยบายเพิ่มรุ่นสินค้าให้มากขึ้นในตลาดโออีเอ็ม ซึ่งเป็นตลาดสินค้าตามสั่ง เนื่องจากมีความได้เปรียบจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง
"บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ทำตลาดต่างประเทศ โดยอาศัย จุดแข็งด้านผู้แทนจำหน่ายในต่างประเทศ ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และการออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศในการแข่งขัน" นายนิพนธ์กล่าวในตอนท้าย--จบ--