หมอ-ตำรวจ-ขนส่ง เตือนผู้ใช้รถที่ชอบทำตัวแหกกฎ ปีใหม่นี้ให้ระวังอาจพบจุดจบจากอุบัติเหตุ

กรุงเทพ--29 ธ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข หมอ-ตำรวจ-ขนส่ง เตือนผู้ใช้รถที่ชอบทำตัวแหกกฎ ปีใหม่นี้ให้ระวังอาจพบจุดจบอุบัติเหตุ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดและป้องกันอุบัติเหตุในช่วงหยุดยาวฉลองปีใหม่ 4 วัน หากพบใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทั้งจำคุก ปรับยึดใบขับขี่ จะเริ่มตั้งแต่คืนส่งท้ายปีเก่าเป็นต้นไป ที่กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 26 ธันวาคม 2540 13.00 น. นายคำรณ ณ ลำพูน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ พลตำรวจเอกโกวิท ภักดีภูมิ รองอธิบดีกราตำรวจฝ่ายการจราจร และนายปรีชา ออประเสริฐ รองอธิบดีกรมการขนส่ง และคณะ แถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการลดปัญหาอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งหยุดยาว 4 วัน ที่จะถึงนี้ว่า อุบัติเหตุยานยนต์ นับเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต และสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน คาดการณ์ว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางออกต่างจังหวัดกันมาก ในปีที่ผ่านมาพบว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุชั่วโมงละ 2 คน บาดเจ็บทั่วๆ ไปชั่วโมงละ 100 คน และบาดเจ็บสาหัสชั่วโมงละ 6 คน สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท และในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีจะพบว่ามีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติถึง 2 เท่าตัว ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงสาธารณสุขอยากให้การฉลองปีใหม่ของพี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความสุขสนุกสนานด้วยความปลอดภัย ไม่ประสบกับความสูญเสีย และโศกเศร้า จึงใคร่ขอให้ข้อเตือนใจแก่ผู้ที่จะเดินทางทุกคน พึงระลึกเสมอว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดได้ทุกเมื่อภายในพริบตา แต่เราสามารถที่จะป้องกันได้ในระดับหนึ่ง หากเราไม่ประมาท โดยเมื่อจะขับขี่จะต้องไม่เมา ไม่ง่วง ไม่เร็ว และไม่ผิดกฎจราจร ถ้าทุกคนปฏิบัติได้ตามที่กล่าวก็จะเกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้ถนนร่วมกันและก่อนออกเดินทางควรตรวจเช็คสภาพรถให้เรียบร้อย เช่น เครื่องยนต์ น้ำ เบรก แบตเตอรี่ ยางและลมยาง ศึกษาเส้นทางที่จะไปให้ดีเสียก่อนออกเดินทาง กรณีจำเป็นที่ต้องพักโรงแรม ต้องสำรวจทางหนีไฟให้พร้อมว่า จากห้องที่เราพักจะไปถึงทางหนีไฟที่ใกล้ที่สุดอย่างไร ลองเปิดประตูหนีไฟด้วยว่าใช้ได้หรือไม่ หากใช้ไม่ได้ให้รีบแจ้งโรงแรม ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวฉลองปีใหม่ 1-4 มกราคม 2541 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับ กรมการขนส่งทางบก ตั้งด่านตรวจจับสะกัดโชว์พร้อมที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการจราจรและการขนส่งอย่างเคร่งครัด ทั้งในกทม. และตามเส้นทางหลวงทั่วประเทศ แต่ละด่านจะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้ากราการขนส่ง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปฏิบัติงานร่วมกัน โดยกรมตำรวจจะใช้มาตรการหลักตรวจเข้มเป็นกรณีพิเศษได้แก่ การตรวจแอลกอฮอล์ จะใช้อุปกรณ์พิเศษที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ตรวจแล้วรู้ผลภายใน 1 นาที ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน 80 เครื่อง พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกรมตำรวจ อีกด้วย หากพบว่าผู้ขับขี่รายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะมีการดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่ยึดใบขับขี่การปรับหรือจำคุก ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธ.ค. 2540 ถึง ม.ค. 2541 ทั้งนี้เชื่อว่าหากทุกฝ่ายและประชาชนได้ร่วมมือกันป้องกันอย่างเต็มที่ ปัญหาอุบัติเหตุในปีหน้าจะลดลงอย่างแน่นอน โดยหากเราสามารถลดอุบัติเหตุได้ 50% ของสถิติที่เกิดทุกปี เราจะสามารถลดการเสียชีวิตได้มากกว่า 7,000 ราย และลดความสูญเสียเศรษฐกิจได้ปีละ 50,000 ล้านบาท ทางด้านการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกระดับ รวมทั้งสถานีอนามัยด้วย รวมกว่า 10,000 แห่ง เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่บนเส้นทางหลวงและแหล่งการท่องเที่ยวจำนวน 196 แห่ง ให้เตรียมเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้บริการหน่วยกู้ชีพเคลื่อนที่เร็ว ประชาชนสามารถเรียกใช้ได้ โดยแจ้งที่หมายเลข 1669 ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ใช้เลขหมายนี้แล้ว 18 จังหวัด คือ กทม. ภาคเหนือ มีใช้ที่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง นครสวรรค์ อุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีที่ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ภาคใต้ มีใช้ที่ ยะลา ภูเก็ต สงขลา นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ เพชรบุรี ภาคกลาง ใช้ที่จันทบุรี และราชบุรี ที่เหลือให้โทรหมายเลข 191 ตำรวจ และ 193 ของทางหลวง แจ้งเหตุได้เช่นกัน ซึ่งระบบการแจ้งเหตุ และระบบการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉุกเฉินนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจะขยายให้ครบทั้ง 75 จังหวัด ภายใน พ.ศ. 2544 ซึ่งจะทำให้ระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน สิ่งที่ประชาชนจะต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงการฉลองปีใหม่ ก็คือ ความสะอาดของอาหารและน้ำ กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ได้ประชาสัมพันธ์ และตรวจมาตรฐานของร้านอาหารทุกประเภทให้ปฏิบัติตามหลักของสุขาภิบาลอาหาร ทั้งนี้เพื่อป้องกันโรคท้องร่วงหรืออาหารเป็นพิษ ซึ่งในปีนี้กองระบาดวิทยาได้รายงานว่า พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 850,000 ราย เสียชีวิต 284 ราย พบผู้ป่วยมากช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. นอกจากนี้ในยุคเงินบาทลอยตัวการไม่มีโรคถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ ดังนั้นประชาชนต้องไม่ประมาทไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การเที่ยว โดยเฉพาะผู้หญิงบริการ จะต้องสวมถุงยางอนามัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกครั้งด้วย--จบ--

ข่าวกระทรวงสาธารณสุข+คืนส่งท้ายปีเก่าวันนี้

ทีม SEhRT ผลัด 2 รับไม้ต่อร่วมจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในประเทศเมียนมาเหตุแผ่นดินไหวเสี่ยงสุขภาพประชาชน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีม SEhRT ผลัด 2 ปฏิบัติภารกิจด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม ร่วมกับทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข (Thailand EMT) ผลัด 2 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ เมืองมัณฑะเลย์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมาย นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 4 พร้อมด้วย นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์สุทัศน์ โชตนพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายภิญญาพัชญ์ จุลสุข

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระท... 'เดชอิศม์' ระดมทันตแพทย์ มอบฟันเทียม 45,000 รายทั่วประเทศ เป็นของขวัญวันผู้สูงอายุ — นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกระ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความสำคั... กรมอนามัย ย้ำ น้ำประปาที่ผ่านกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดภัย — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตอกย้ำความสำคัญของน้ำประปาที่มีคุณภาพต่อสุขภาพของประ...

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระท... สธ. แนะ 4 วิธี 'ปลอดโรค ปลอดภัย สุขอนามัยดี' เตรียมพร้อมก่อนเที่ยวสงกรานต์ — นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์...

เดชอิศม์' แสดงความชื่นชม แพทย์หญิงนภา พฤฒ... 'เดชอิศม์' ชื่นชม 2 แพทย์หญิงกรมอนามัย ช่วยชีวิต 2 หนูน้อยแรกคลอด ขณะเกิดเหตุ แผ่นดินไหว — เดชอิศม์' แสดงความชื่นชม แพทย์หญิงนภา พฤฒารัตน์ และ แพทย์หญิงพิ...