BMB9 : ประธานกรรมการธนาคารศรีนครยืนยันความมั่นคงของธนาคารด้วยมาตรการ 3 ขั้นตอน

กรุงเทพ--5 ม.ค.--บมจ.ธนาคารศรีนคร เช้าวันนี้ นายอุเทน เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์ แก่ผู้สื่อข่าว หลังจากเสร็จสิ้นการนำคณะกรรมการของมูลนิธิปอเต็กตึ๊งเข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีนายชวนหลีกภัย เพื่อมอบของขวัญวันเด็กประจำปี 2541 สำหรับให้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี แจกจ่ายแก่เด็กๆ ต่อไป ประธานกรรมการธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า การปรับปรุงคณะกรรมการ และคณะกรรมการบริหารของธนาคาร ตามที่ได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ทำการแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้ทราบไปแล้วเมื่อเย็นวันที่ 31 ธันวาคม 2540 นั้น ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยที่มาจากความตั้งใจที่มีอยู่นานแล้วของคณะกรรมการชุดเก่าของธนาคารเอง ทั้งนี้ เพื่อพลิกสถานการณ์ของธนาคารที่กำลังประสบกับปัญหาจากสภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้เช่นเดียวกับที่สถาบันการเงินอื่นๆ อีกหลายแห่งได้ประสบ การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของธนาคารนั้น มิใช่เป็นการดำเนินการของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยพลการแต่เพียงฝ่ายเดียวที่เรียกกันว่า "ยึด" ตามที่หนังสือพิมพ์บางฉบับพาดหัวข่าวแต่อย่างใด นายอุเทน เตชะไพบูลย์ ชี้แจงว่า ทั้ง ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ยืนยันแล้วหลายครั้งว่า การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการและคณะกรรมการบริหารรวมทั้งผู้บริหารระดับสูงบางท่านของธนาคารศรีนคร นั้นเกิดขึ้นเพราะความสมัครใจและการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยที่ดำเนินมาเป็นระยะๆ ก่อนหน้านี้แล้ว "จะเห็นได้ว่าตัวผมเอง ก็ยังคงเป็นประธานกรรมการอยู่เช่นเดิม นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ซึ่งเพิ่งขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก็ยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการอยู่เช่นเดิมถ้ามีการยึดกันจริงอย่างที่พูดกัน ผมจะยังเป็นประธานอยู่ได้หรือ" นายธนาคารอาวุโสของเมืองไทยกล่าวเป็นข้อสังเกต สำหรับฐานะของธนาคารศรีนครหลังจากนี้ไป นายอุเทน เตชะไพบูลย์ ให้ความเห็นว่า จะมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน เพราะคณะกรรมการชุดใหม่และ ธนาคารแห่งประเทศไทย มีความเห็นตรงกันว่าจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ธนาคารเผชิญอยู่อย่างเบ็ดเสร็จเป็น 3 ขั้นตอนด้วยกันคือ ขั้นแรก ได้แก่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารระดับสูงของธนาคารที่ได้กระทำไปแล้วเพื่อให้การดำเนินการขั้นที่สอง คือการเพิ่มทุนเรือนหุ้นอีกประมาณ 8,900 ล้านบาท อยู่ในวิสัยที่จะกระทำได้สำเร็จโดยเร็ว เพราะคณะกรรมการชุดใหม่จะเร่งรัดเจรจากับผู้สนใจร่วมทุนกับธนาคารในต่างประเทศทั้งรายเก่าและรายใหม่ถ้ามีมาให้ลุล่วงไปภายในกรอบเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่าเหมาะสมไม่ยืดเยื้อจนเกินไป ถ้าการดำเนินการขั้นที่สองไม่เกิดผลตามต้องการ การดำเนินการขั้นที่สาม ก็จะตามมาทันที คือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ก็จะเข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุนของธนาคาร ซึ่งหมายถึงว่าธนาคารจะมีทุนเรือนหุ้นเพิ่มขึ้นเต็มตามจำนวนที่กำหนด และธนาคารศรีนครก็จะมีฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์ที่องค์กรของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เช่นเดียวกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการ ธนาคารศรีนคร ยังกล่าวด้วยว่า "มาตรการ 3 ขั้นตอน ดังกล่าว เปรียบเหมือนธนาคารมีเกราะป้องกันความเสียหายถึง3 ชั้น จะถือได้หรือไม่ว่าธนาคารศรีนครนั้น จะมีฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับการพัฒนาการดำเนินงานของธนาคารให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของผู้ฝากเงินและผู้ใช้บริการอื่น ๆ ของธนาคารอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ กองทุนฟื้นฟูฯ ก็ยังรับรองความปลอดภัยของผู้ฝากเงินทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอย่างไม่มีเงื่อนเวลาและเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จ.(ว)2786/2540 ลงวันที่ 11 กันยายน 2540 และหนังสือรับรองการประกันผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ของสถาบันการเงิน ลงวันที่ 8 กันยายน 2540 ที่กองทุนฯ ได้ประกาศให้ทราบทั่วกันแล้ว" "ขณะนี้ ธนาคารศรีนครเปรียบเสมือน เรือที่ลอยลำโต้มรสุมอยู่ในมหาสมุทร โดยมีผู้ร่วมชะตากรรมด้วยกันถึง 5 ฝ่ายด้วยกัน คือผู้ถือหุ้นของธนาคารฯ เจ้าหนี้ต่าง ๆ ที่รวมถึงลูกค้าผู้ฝากเงินด้วย ลูกค้าผู้ใช้บริการสินเชื่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารของธนาคาร และกองทุนฟื้นฟูฯ ผู้ร่วมชะตากรรมทุกฝ่าย กำลังพยายามทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพานาวาลำนี้ ให้รอดพ้นมรสุมให้จงได้ ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ธนาคารฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงไปได้ คือ ศรัทธาของประชาชนต่อธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ฝากเงินในปัจจุบัน และในอนาคต นอกจากนี้ทัศนคติที่เป็นบวกต่อธนาคารของสื่อมวลชนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง " นายอุเทน เตชะไพบูลย์กล่าวย้ำ--จบ--

ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+อุเทน เตชะไพบูลย์วันนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 2.4 จากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 2.8 และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนเมษายนนี้ "ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับธนาคารกลางทุกแห่ง เราได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4% จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 2.8 เนื่องจากปัจจัยเรื่องความไม่

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล... PDPC ร่วมตำรวจ-ธปท. ทลายขบวนการใช้ข้อมูลบัตรเครดิตผิดกฎหมาย ยึดกว่า 3.3 ล้านรายการ — สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC โดย พ.ต.อ....

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ ก... อยากกู้เงินด่วนออนไลน์ เลือกที่ไหนดี มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง — ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ การกู้เงินด่วนออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับคว...

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมกา... ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย — ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแ...

ย้อนกลับไปในปี 2559 "พร้อมเพย์" ได้ถือกำเ... "พร้อมเพย์" 8 ปีแห่งการพลิกโฉมระบบการเงินไทย ระบบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง — ย้อนกลับไปในปี 2559 "พร้อมเพย์" ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงสร้างพื้...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนา... EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว — ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EX...