SCIB9: แบงก์ชฏาใกล้ได้ข้อยุติการร่วมทุนกับต่างชาติ

กรุงเทพ--30 ก.ย.--ธ.นครหลวงไทย ดร.สม จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องการเพิ่มทุนและตามที่มีข่าวว่าสถาบันการเงินพันธมิตรจากต่างประเทศหลายรายสนใจเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารฯ ดร.สม กล่าวว่า ตามที่ธนาคารฯ จะเพิ่มทุนจดทะเบียนของธนาคารฯ เป็น 12,000 ล้านบาท จากเดิม 6,010 ล้านบา ท ซึ่งส่วนหนึ่งจะเสนอขายให้กับนักลงทุนต่างประเทศตามแผนพัฒนาธุรกิจของธนาคารฯ ที่ได้กำหนดไว้แต่เดิมนั้นธนาคารฯ ได้รับการติดต่อจากสถาบันการเงินชั้นนำจากต่างประเทศที่สนใจเข้าร่วมทุนกับธนาคารฯ ได้แก่ กลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ชั้นแนวหน้าของยุโรป และเกาหลีใต้ ธนาคารขนาดใหญ่จากญี่ปุ่นและอเมริกา ซึ่งขณะนี้การเจรจาได้ก้าวหน้าดีเกินคาดซึ่งน่าจะสามารถสำเร็จสมบูรณ์ในเร็ววันนี้ การที่มีสถาบันการเงินชั้นนำจากต่างประเทศหลายรายสนใจเข้าร่วมทุนกับธนาคารฯ เนื่องเพราะพิจารณาเห็นว่า ธนาคารฯ มีคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยในงวดแรกของปี 2540 ธนาคารฯ มีสัดส่วนของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมเพียงร้อยละ 7.16 ขณะที่ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนดังกล่าวถึงร้อยละ 8.30 และที่สำคัญธนาคารฯ มีระบบการบริหารแบบมืออาชีพ ตลอดจนมีศักยภาพพร้อมในการพัฒนาและขยายธุรกิจผ่านเครือข่ายสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศและในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งยังมีบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจด้านการเงินที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างครบวงจร ประกอบกับเห็นว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างฐานธุรกิจระยะยาวในประเทศไทย โดยอาศัยการร่วมมือกับธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งมีความมั่นคงและเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.สม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำจากต่างประเทศ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างธุรกิจแล้ว ธนาคารฯ ยังได้รับประโยชน์จากการขยายแหล่งเงินทุนและเพิ่มวงเงินกู้ยืม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินที่ทันสมัยอีกด้วย ส่วนตามที่มีข่าวว่าปริมาณเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ลดลงเป็นจำนวนมากในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากข่าวลืออย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความอ่อนไหวของระบบสถาบันการเงินไทยนั้น ดร.สม กล่าวว่า ธนาคาร ได้รับผลกระทบบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯ ได้คาดการณ์และเตรียมพร้อมล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยธนาคารฯ ได้สะสมสำรองสภาพคล่องไว้แล้วอย่างเพียงพอ จึงมิได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว สำหรับบริษัทเงินทุนในเครือสามแห่งนั้น ขณะนี้ทางกลุ่มได้เริ่มคุยกับคณะกรรมการกำกับฯ แล้วในการนำออกมาดำเนินการในรูป SUPERFINANCE ในเร็ววันนี้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทเช่นเดิม โดยในขณะเดียวกันนี้ก็ได้เริ่มเจรจากับสถาบันการเงินในต่างประเทศที่สนใจเข้าร่วมทุนด้วยแล้ว--จบ--

• ข่าวสถาบันการเงินพันธมิตร
• ข่าวธนาคารนครหลวงไทย
• ข่าวสถาบันการเงิน
• ข่าวธนาคารนครหลวง
• ข่าวนครหลวงไทย