กรุงเทพ--21 ต.ค.--กทม.
วานนี้ (20 ต.ค. 40) เวลา 12.30 น. นายบำเพ็ญ จตุรพฤกษ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถรางเลียบคลองว่า ในวันนี้ (21 ต.ค. 40) กทม. จะเชิญกลุ่มบริษัทผู้สนใจลงทุนโครงการรถรางเลียบคลองสายพระราม 3 มารับฟังข้อมูลพื้นฐานว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่น่าสนใจแค่ไหน เพียงไร ความพร้อมในเบื้องต้นของโครงการพื้นที่ต่าง ๆ ที่จะใช้ในส่วนของโครงการ เช่น โรงจอด, โรงซ่อม และจำนวนผู้โดยสารเป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สนใจที่จะลงทุนเกิดความมั่นใจว่า โครงการรถรางเลียบคลองสายพระราม 3 มีรูปแบบเบื้องต้นที่ชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งเดิมได้มีการศึกษาว่า ในระยะทาง 12.5 กม. ของโครงการในเบื้องต้น จะมีผู้ใช้ระบบประมาณ 140,000 คนต่อวัน ทางคณะศึกษาฯ ได้มีการตรวจสอบและปรับปรุงให้ถูกต้องกับความเป็นจริงมากขึ้น และจากการวิเคราะห์ในรายละเอียดพบว่า การพัฒนาถนนพระราม 3 เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจจะทำให้มีการพัฒนาการใช้ที่ดิน และมีโอกาสการสร้างงานสูงขึ้น รวมทั้งเส้นทางดังกล่าวก็จะมีการพัฒนาระบบขนส่งต่าง ๆ เสริม เช่น ระบบขนส่งทางน้ำ จากท่าน้ำพระประแดงมาถึงท่าน้ำบริเวณโรงบำบัดน้ำเสียปากคลองช่องนนทรี ประกอบกบ ขสมก. ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถประจำทางให้เสริมกับระบบขนส่งมวลชนมากขึ้นด้วย ดังนั้นจึงทำให้ตัวเลขจำนวนผู้ใช้ระบบมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยคิดไว้ถึง 40% คือ เพิ่มเป็นประมาณ กว่า 2 แสนคนต่อวัน ซึ่งการที่ตัวเลขจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น ทำให้แนวโน้มอัตราค่าโดยสารอยู่ในระดบที่จำทำให้ประชาชนเข้ามาใช้ระบบมีความเป้นไปได้สูง อีกทั้งอัตราการคืนทุนของผู้ประกอบการก็มีโอกาสดีมากขึ้น และกลุ่มบริษํทจะสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย
รองปลัดกทม. กล่าวต่อไปว่า ในต้นเดือน พ.ย. 40 จะให้กลุ่มบริษัทผู้สนใจมายื่นคุณสมบัติ โดยกทม. จะพิจารณาคัดเลือกกลุ่มบริษัทที่เหมาะสม และหลังเดือน พ.ย. 40 กทม. จะให้ TOR แก่กลุ่มบริษัทดังกล่าวไปวิเคราะห์ เพื่อจัดทำข้อเสนอมายื่นให้กทม. ในประมาณเดือน ก.พ. 41 จากนั้นคาดว่าคงจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ในการคัดเลือกกลุ่มบริษัทที่จะมาดำเนินการและขออนุมัติจากครม. อย่างไรก็ดีในการชี้แจงข้อมูลแก่บริษัทผู้สนใจในวันพรุ่งนี้ กทม. จะนำเรื่องเกณฑ์ระบบขนส่งมวลชนตามมาตรฐานสากลที่ระบุไว้เกี่ยวกับความปลอดภัย และผลกระทบสิ่งแวดล้อมในการจัดหาตัวระบบ และการเดินระบบ (ISO) ให้ผู้ประกอบการทราบว่า กทม.ประสงค์ให้กลุ่มบริษัทที่จะเข้ามาดำเนินการต้องได้มาตรฐาน ISO 9000
รองปลัดกทม. กล่าวอีกว่า ระหว่างที่กทม.เปิดให้ผู้สนใจแสดงเจตนารมย์ฯ กทม. ต้องเร่งทำรายงานความเป็นไปได้ของโครงการ รวมทั้งผลกระทบสิ่งแวดล้อมส่งให้สภาพัฒน์ฯ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมพิจารณาว่า กทม.มีแนวทางที่จะดำเนินการเป็นไปได้แค่ไหน หลังจากนั้นจะได้นำเสนอครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป--จบ