ยาเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้สำหรับการรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่ายาที่เก็บไว้นานเกินไปอาจเกิดการเสื่อมสภาพหรือหมดอายุได้ การใช้ยาหมดอายุนอกจากจะไม่ได้ผลในการรักษาแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีสังเกตยาหมดอายุในรูปแบบต่าง ๆ และวิธีการเก็บรักษายาที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาของคุณและครอบครัว
การเสื่อมสภาพของยาสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
เนื่องจากยาแต่ละประเภทจะมีลักษณะการเสื่อมสภาพที่แตกต่างกัน มาดูวิธีสังเกตยาแต่ละประเภทกัน ดังนี้
สำหรับยาเม็ดนั้น ถือเป็นรูปแบบยาที่พบบ่อยที่สุดในบ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล ยาแก้แพ้ เป็นต้น โดยจะสามารถสังเกตการเสื่อมสภาพของยาเม็ดได้ค่อนข้างง่าย หากพบว่าเม็ดยามีการแตกร่วน มีรอยร้าวหรือมีสีที่เปลี่ยนไปจากเดิม แสดงว่ายาอาจเสื่อมสภาพแล้ว โดยเฉพาะยาเม็ดเคลือบน้ำตาลที่มีการเยิ้มเหนียวหรือมีกลิ่นผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวและนำไปทิ้งอย่างถูกวิธี H3 ยาผง
ยาผงแบบแห้งมีความไวต่อความชื้นมากกว่ายาแบบอื่น ดังนั้น สาเหตุที่ยาผงเสื่อมสภาพหรือหมดอายุมักเกิดจากความชื้นในอากาศ ทำให้ผงยาจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง ไม่สามารถแตกตัวได้เมื่อผสมกับน้ำ นอกจากนี้ หากสังเกตเห็นหยดน้ำเกาะที่ผนังภาชนะบรรจุ หรือผงยามีการเปลี่ยนสี แสดงว่ายานั้นไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้แล้ว ควรเก็บยาผงในที่แห้งและปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันความชื้น
สำหรับยาแคปซูลมีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม ซึ่งมีวิธีสังเกตการเสื่อมสภาพที่แตกต่างกัน ได้แก่
แคปซูลนิ่ม จะสังเกตได้จากเปลือกแคปซูลที่เยิ้มเหลว เหนียวผิดปกติหรือมีรอยรั่วทำให้ตัวยาไหลออกมาภายนอก
ยาน้ำใสที่เสื่อมสภาพมักมีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ชัดเจน เช่น การเกิดความขุ่น การมีตะกอนแขวนลอย หรือการเกิดฟองก๊าซ นอกจากนี้ ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่นและรสชาติ โดยเฉพาะยาน้ำเชื่อมอย่างยาแก้ไอ หากมีกลิ่นบูดเปรี้ยวหรือรสชาติเปลี่ยนไป แสดงว่ายาเสื่อมสภาพและไม่ควรนำมาทานต่อ
ยาอิมัลชันเป็นยาที่มีส่วนผสมของน้ำและน้ำมัน โดยทั่วไปเมื่อตั้งทิ้งไว้จะเกิดการแยกชั้น แต่เมื่อเขย่าจะกลับเข้ากันได้ดี อย่างไรก็ตาม หากยาเสื่อมสภาพ แม้จะเขย่าแล้วก็ไม่สามารถรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้ นอกจากนี้ อาจจะยังสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่นหรือความหนืดที่ผิดปกติได้อีกด้วย
ยาน้ำแขวนตะกอน เช่น ยาลดกรดหรือยาคาลาไมน์ จะมีลักษณะที่เป็นตะกอนจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง เกาะติดกันแน่น แม้จะเขย่าอย่างแรงก็ไม่สามารถกระจายตัวได้เหมือนเดิม นอกจากนี้ ควรสังเกตความเข้มข้น กลิ่น สีหรือความหนืดของยาอีกด้วยว่าผิดไปจากปกติหรือไม่ หากพบว่าไม่เนื้อยาไม่เหมือน ควรหลีกเลี่ยงการทานหรือการใช้งาน
ยาครีมที่เสื่อมสภาพมักมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่สังเกตได้ชัดเจน เช่น การแยกชั้นของส่วนประกอบ สีและเนื้อสัมผัสไม่เหมือนเดิม หรือมีกลิ่นแปลกไปจากเดิม นอกจากนี้ อาจพบการหดตัวของเนื้อครีม อันเนื่องจากการระเหยของน้ำหรือการเกิดผลึกในเนื้อครีม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายาไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้แล้ว
หลังจากรู้ถึงวิธีสังเกตยาที่หมดอายุแล้ว มาดูวิธีการเก็บยาที่ถูกต้อง เพื่อรักษาประสิทธิภาพของยากันบ้าง โดยจะมีวิธี ดังนี้
เก็บยาในภาชนะที่เหมาะสม ยาเป็นสิ่งที่ไวต่ออุณหภูมิและความชื้นเป็นอย่างมาก ดังนั้น การจัดเก็บยาให้ภาชนะที่เหมาะสม เช่น กล่องใส่ยาสีชา ก็จะช่วยป้องกันยาจากแสงแดด และความชื้นด้วย
อย่างไรก็ตาม การสังเกตยาหมดอายุเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนรู้ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ซึ่งยาแต่ละประเภทก็จะมีมีลักษณะการเสื่อมสภาพที่แตกต่างกันอกไป ดังนั้น การเก็บรักษายาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของยา ควรหมั่นตรวจสอบยาในบ้านอย่างสม่ำเสมอ และทิ้งยาที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาหมดอายุ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit