XO เดินหน้าซอสส่งออกปี 68 เจาะทวีปยุโรป โฟกัสตลาดมาร์จิ้นสูง ด้านไลน์การผลิตใหม่คาดเดินเครื่องเม.ย.นี้

"บมจ.เอ็กโซติก ฟู้ด หรือ XO" ย้ำศักยภาพการเติบโตในปี 68 ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% จากปี 67 ทำได้ 47.85% สูงกว่าเป้า รับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบลด-บาทอ่อน พร้อมโฟกัสลูกค้าหลักในทวีปยุโรปและทวีปอื่นที่ยังโตดี และมีมาร์จิ้นสูงกว่าตลาดสหรัฐ เผยแผนเดินเครื่องไลน์ผลิตใหม่เมษายนนี้ รองรับยอดขายได้ 1,เครื่องเครื่องเครื่อง ล้านบาทต่อปี หนุนแผนบุกตลาดส่งออกเต็มสูบ โฟกัสตลาดที่ทำอัตรากำไรดีต่อเนื่อง

XO เดินหน้าซอสส่งออกปี 68 เจาะทวีปยุโรป โฟกัสตลาดมาร์จิ้นสูง ด้านไลน์การผลิตใหม่คาดเดินเครื่องเม.ย.นี้

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้นำธุรกิจผลิตและส่งออกซอสพริกศรีราชาอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 68 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 67 ที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขการเติบโตที่ชัดเจน บริษัทรอพิจารณาหลังงบไตรมาส 2/68 ออกมาก่อน เพื่อจะได้ทราบทิศทางหรือเทรนด์ในช่วงครึ่งปีหลัง และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% วางกลยุทธ์ขยายตลาดในประเทศที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง รวมทั้ง การฟื้นตัวของยอดขายในตลาดสหรัฐ คาดจะปรับตัวดีขึ้น จากปีที่ผ่านมายอดขายในตลาดสหรัฐปรับตัวลดลง เนื่องจากการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นและภาวะสินค้าล้นสต๊อก (Over Stock)

ในด้านกลยุทธ์การเติบโตปี 68 บริษัทมีการส่งออกสินค้าไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และยังคงขยายตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติมากกว่า 24 งานต่อปี โดยยังคงเน้นตลาดหลักในทวีปยุโรปและทวีปอื่นๆ ต่อเนื่อง โฟกัสกลุ่มทวีปที่สามารถทำอัตรากำไรได้ในระดับสูง ขณะที่ตลาดแคนาดาเริ่มมีออเดอร์เข้ามา อย่างไรก็ดี บริษัทได้รับอานิสงส์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงโดยเซ็นสัญญาซื้อพริกและน้ำตาลล่วงหน้าในราคาที่เอื้อต่อการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านความคืบหน้าไลน์การผลิตใหม่ 1 ไลน์ ที่โรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ งบลงทุน 200 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในช่วงของการทดสอบระบบ (Test run) และคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าส่งออกได้ในเดือนเม.ย. ปี 68 นี้ โดยไลน์การผลิตใหม่จะสามารถสร้างยอดขายได้ราว 1,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่แผนการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เลื่อนออกไปคาดจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 68 นี้ โดยจะใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 18 เดือน เพื่อขยายตลาดซอสส่งออกไปยังตลาดที่เป็นโอกาสต่อเนื่อง รับทิศทางอาหารไทย Kitchen of the world

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของ XO ยังคงเป็นกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้ม คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 89.9% ของยอดขายบริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูงที่สุด ในด้านการใช้อัตรากำลังการผลิต (Utilization Rate) ทำได้แตะระดับ 87.8%

มีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มหลักอยู่ในทวีปยุโรป 78.8% เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา รวมทั้ง ทวีปเอเชีย 7.2% และทวีปอเมริกาสัดส่วนลดลงอยู่ที่ 4.7% ของยอดขาย ซึ่งเป็นการปรับลดลงตามกลยุทธ์ที่วางไว้

ทั้งนี้ ในปี 67 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า จำนวน 2,478.91 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 42.18 ล้านบาท คิดเป็น 1.67% โดยรายได้ปรับลดลงเล็กน้อย ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าในปี 67 ทำได้ 47.85% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเท่ากับ 46.76% โดยสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของตลาดหลักในทวีปยุโรปและทวีปอื่นๆ ต่อเนื่อง ขณะที่ สัดส่วนการขายสินค้าไปยังทวีปอเมริกาซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าการขายไปยังทวีปยุโรปลดลง และการอ่อนค่าของสกุลเงินบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในปี 67 เท่ากับ 790.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.73 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักเนื่องจากการลดลงของผลขาดทุนอื่น และการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น

"แม้ว่ารายได้รวมและปริมาณการขายจะลดลงจาก 28,301 ตัน ในปี 66 เหลือ 25,511 ตัน ในปี 67 หรือลดลง 9.86% มาจากสัดส่วนการขายสินค้าไปยังทวีปอเมริกา แต่บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้กำไรขั้นต้นยังคงเติบโตอยู่ที่ 47.85% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 45% ในด้านอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยอยู่ที่ 37.75 บาท/USD เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ 37.20 บาท/USD" นายจิตติพร กล่าว

นายจิตติพร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับประเด็นที่นักลงทุนสงสัย เกี่ยวกับวิธีการจ่ายปันผลที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากบริษัทมี BOI ที่บัตรหมดอายุในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จึงต้องจ่ายปันผลระหว่างกาลออกมาก่อน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นไม่ต้องจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% ส่งผลให้ XO มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 2 ครั้ง จากกำไรสะสมและผลการดำเนินงานประจำปี 67 จากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน รวมในอัตราหุ้นละ 2.088 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 894.22 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาผลประกอบการของปี 67 กำไรสะสม และอัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวรวมกัน ถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทแล้ว

ส่วนประเด็นการขายหุ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 68 ที่ผ่านมา คิดเป็น 1.2066% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 8.8263% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ถูกบังคับขาย แต่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เนื่องจากมีความสนใจอยากซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง และไม่กระทบต่อการบริหารงาน


ข่าวจิตติพร จันทรัช+o:memberวันนี้

XO เดินหน้าซอสส่งออกปี 68 เจาะทวีปยุโรป โฟกัสตลาดมาร์จิ้นสูง ด้านไลน์การผลิตใหม่คาดเดินเครื่องเม.ย.นี้

"บมจ.เอ็กโซติก ฟู้ด หรือ XO" ย้ำศักยภาพการเติบโตในปี 68 ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% จากปี 67 ทำได้ 47.85% สูงกว่าเป้า รับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบลด-บาทอ่อน พร้อมโฟกัสลูกค้าหลักในทวีปยุโรปและทวีปอื่นที่ยังโตดี และมีมาร์จิ้นสูงกว่าตลาดสหรัฐ เผยแผนเดินเครื่องไลน์ผลิตใหม่เมษายนนี้ รองรับยอดขายได้ 1,000 ล้านบาทต่อปี หนุนแผนบุกตลาดส่งออกเต็มสูบ โฟกัสตลาดที่ทำอัตรากำไรดีต่อเนื่อง นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้นำธุรกิจผลิต

บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ... XO แย้มออเดอร์อู้ฟู่ ออเดอร์สหรัฐฯ ส่งออกสะพัด ปีหน้าโตได้อีก — บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ส่งออกรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสแย้มออเดอร...

XO มั่นใจผลงานติดปีก ผู้บริหารขอปรับเป้าห... XO ปรับเป้ารายได้ปี 66 โต 50% รับซอสส่งออกฟีเวอร์ มั่นใจปี 67 ติดปีกตลาดอเมริกา ลุยเข้า Modern Trade — XO มั่นใจผลงานติดปีก ผู้บริหารขอปรับเป้าหมายรายได้ป...

นายจิตติพร จันทรัช พร้อมด้วย นางสาววาสนา ... "เอ็กโซติค ฟู้ด XO" รับรางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2566 ใน mai — นายจิตติพร จันทรัช พร้อมด้วย นางสาววาสนา จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จ...