นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวกรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีข้อสั่งการให้สถานศึกษาทุกแห่งกำชับให้นักเรียนระมัดระวังเรื่องการออกไปเล่นตามแหล่งน้ำในชุมชน เนื่องจากสถิติในช่วงปิดภาคเรียนจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเกือบทุกปีว่า สนศ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโครงการ "ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้ปลอดภัย" เพื่อส่งเสริมทักษะการว่ายน้ำและการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำให้แก่เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาสังกัด กทม. รวมถึงศูนย์กีฬา กทม. โดยมีเป้าหมายให้เด็กมีพื้นฐานว่ายน้ำและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินในชีวิตประจำวัน ตลอดจนสร้างความตระหนักให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากการจมน้ำ อีกทั้ง สนศ. ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิ Teach for Life ร่วมกันพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนรู้ความปลอดภัยทางน้ำ รวมถึงการอบรมครูผู้สอนให้สามารถถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม. และสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ปกครองเล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยทางน้ำ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบ่งตามระดับชั้น ได้แก่ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2 เรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและการประเมินแหล่งน้ำ ฝึกการใช้ชูชีพและช่วยเหลือคนตกน้ำด้วยหลัก "ตะโกน โยน ยื่น" โรงเรียนที่มีสระว่ายน้ำจะสอนทักษะการลอยตัวและการเคลื่อนที่ในน้ำ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-5 ฝึกทักษะเพิ่มเติม ได้แก่ ความเสี่ยงและการประเมินแหล่งน้ำ การใช้ชูชีพและช่วยเหลือคนตกน้ำ ทักษะการลอยตัว และการเคลื่อนที่ในน้ำ โดยมีการประเมินมาตรฐานทางหลักวิชาการ อาทิ ลอยตัวได้ 3 นาที เคลื่อนที่ทางน้ำได้ 15 เมตร และทักษะว่ายน้ำในรูปแบบต่าง ๆ และระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรียนรู้การช่วยชีวิตเบื้องต้นผ่านการฝึกปฏิบัติจริงทุกคน โดยมีทีมวิทยากรมืออาชีพที่ผ่านการรับรองหลักสูตรช่วยชีวิตเป็นผู้ให้ความรู้
นายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) กทม. กล่าวว่า สวท. ได้จัดกิจกรรมสอนว่ายน้ำขั้นพื้นฐานให้ประชาชนทั่วไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในศูนย์กีฬา กทม. รวม 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา (มีนบุรี) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน) ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ ศูนย์กีฬารามอินทรา และศูนย์กีฬาอ่อนนุช กิจกรรมดังกล่าวมุ่งเน้นการสอนว่ายน้ำขั้นพื้นฐานและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการตกน้ำหรือจมน้ำ โดยแบ่งการสอนเป็น 4 รุ่น รุ่นละ 3 เดือน ตลอดทั้งปี ผู้สนใจสามารถสมัครเรียนได้ที่ศูนย์กีฬาดังกล่าว นอกจากนี้ ศูนย์กีฬาหลายแห่งยังได้รับการประสานจากโรงเรียนในสังกัด กทม. ให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนว่ายน้ำ ภายใต้โครงการ "ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้" ซึ่งเป็นหลักสูตรเดียวกับที่เปิดสอนให้ประชาชนทั่วไป สำหรับผู้ที่มาใช้บริการสระว่ายน้ำในศูนย์กีฬา กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางน้ำที่ผ่านการอบรมทักษะช่วยชีวิตทางน้ำดูแลความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการตลอดทั้งวัน
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวว่า สนน. มีโครงการก่อสร้างเขื่อนริมคลองในคลองสายหลักทั้งสองฝั่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย โดยก่อสร้างทางเดินริมคลอง ติดตั้งราวเหล็กกันตก ป้องกันอุบัติเหตุจากการพลัดตกน้ำ รวมถึงจัดทำบันไดเหล็กสำหรับขึ้นลงบริเวณหน้าเขื่อนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่อาจพลัดตกลงไปในน้ำ ส่วนคลองที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อนริมคลอง สนน. ได้กำชับผู้รับจ้างติดตั้งป้ายและสัญญาณแจ้งเตือน เพื่อป้องกันอันตรายจากการพลัดตกน้ำ อีกทั้งได้ตรวจสอบราวเหล็กกันตกและบันไดเหล็กหน้าเขื่อน หากพบว่าชำรุดหรือเสียหายให้ซ่อมแซมและบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
สำหรับการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำในเด็กต้องสร้างความตระหนักให้กับประชาชนและผู้ปกครอง ควรดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เล่นน้ำในคูคลอง หนอง บึง บ่อน้ำ หรือสระว่ายน้ำภายในหมู่บ้านตามลำพัง หรือหากจะลงเล่นน้ำควรเลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัย มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ หรืออุปกรณ์ป้องกันและมีผู้ดูแลที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที รวมถึงช่วยกันเฝ้าระวังเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่อาจนำไปสู่การสูญเสียชีวิตได้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit