"แรบบิท แคร์" ปักธงแบรนด์ผู้นำ "โบรกเกอร์บริการประกันกลุ่ม" วางเป้ายอดกรมธรรม์ ปี 68 โต 40% พร้อมลุยกลยุทธ์ "Employee Well-Being" รังสรรค์สวัสดิการที่ตรงใจ ชูไฮไลต์ โซลูชันให้คำปรึกษากับพนักงานแบบรายบุคคล

25 Oct 2024

บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด (Rabbit Care) แพลตฟอร์มโบรกเกอร์ชั้นนำด้านประกันภัย (InsurTech) และผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน (FinTech) ออนไลน์ของประเทศไทยในเครือ BTS เดินหน้ารุกตลาดบริการประกันองค์กร หนึ่งในบริการที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 30% พร้อมตอกย้ำบทบาทการเป็นที่ปรึกษาด้านสวัสดิการพนักงานที่มีเอกลักษณ์ด้าน "Employee Well-Being" โดยชูโซลูชันที่ให้มากกว่าความคุ้มค่าสำหรับประกันกลุ่มสวัสดิการพนักงาน และมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการออกแบบสวัสดิการร่วมกับทางลูกค้าเพื่อให้พนักงานองค์กรได้รับผลประโยชน์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ภายในปี 2568 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตเบี้ยประกันกลุ่มเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% เน้นการสร้างความแตกต่างด้วยบริการที่ใกล้ชิดและเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนไทยที่นิยมปรึกษาและพูดคุยผ่านทางระบบแชท ด้วยช่องทางสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้สวัสดิการที่เป็นพนักงานให้สามารถเข้าถึงบริการ การช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาแบบส่วนตัวผ่าน " Rabbit Care LINE OA @rcare" สามารถสอบถามความคุ้มครอง ตรวจสอบการเคลมสินไหม หรือให้คำแนะนำการใช้งาน Mobile Application การเบิกเคลมผ่าน e-Claim ได้ครบจบในที่เดียว

"แรบบิท แคร์" ปักธงแบรนด์ผู้นำ "โบรกเกอร์บริการประกันกลุ่ม" วางเป้ายอดกรมธรรม์ ปี 68 โต 40% พร้อมลุยกลยุทธ์ "Employee Well-Being" รังสรรค์สวัสดิการที่ตรงใจ ชูไฮไลต์ โซลูชันให้คำปรึกษากับพนักงานแบบรายบุคคล

นายพิงพรรณ สัจจา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันธุรกิจองค์กร บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในบทบาทโบรกเกอร์ด้านประกันภัยชั้นนำของประเทศไทย แรบบิท แคร์ ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านฐานผู้ใช้บริการ จำนวนการซื้อกรมธรรม์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการในประเภทต่าง ๆ โดยกลุ่มหนึ่งที่มีตัวเลขการเติบโตที่น่าสนใจคือ บริการประกันภัยสำหรับภาคองค์กร (ประกันกลุ่ม) ซึ่งเป็นการดำเนินงานในรูปแบบ Business-to-Business (B2B) โดยเป็นหนึ่งในบริการที่ทำรายได้หลักให้กับแรบบิท แคร์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 30% และเมื่อเทียบช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน ระหว่างปี 2567 กับปี 2566 มีการเติบโตอยู่ที่ 30% ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงเล็งเห็นถึงการเพิ่มและพัฒนาบริการให้ครอบคลุมกับกลุ่มบริษัทพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ให้บริการประกันกลุ่มชั้นนำกว่า 30 ราย เพื่อส่งมอบหลากโซลูชันตอบโจทย์กับความต้องการในตลาด อาทิ ประกันทรัพย์สิน-วินาศภัย ประกันภัยสำหรับธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ร้านอาหาร ตลอดจนถึงประกันกลุ่มสวัสดิการพนักงาน นอกจากนี้ จากการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แรบบิท แคร์ยังพบว่ากลุ่มผู้ให้บริการประกันกลุ่มสวัสดิการพนักงานสำหรับภาคองค์กร ที่มีการเลือกใช้สูงสุดอันดับหนึ่งผ่านแรบบิท แคร์คือ AIA รองลงมาคือไทยประกันชีวิต ในขณะที่เมืองไทยประกันชีวิต ครองอันดับ 3

"ปัจจุบันนี้ แรบบิท แคร์ ได้อำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มลูกค้าองค์กรจำนวนกว่า 300 บริษัท และดูแลสมาชิกทั้งหมดมากกว่า 70,000 ราย และถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ท้าทายแต่บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าอัตราการเติบโตของสัดส่วนธุรกิจประกันภัยองค์กรนั้นจะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามอุปสงค์ของตลาดและการแข่งขันในด้านแรงงานของภาคธุรกิจ บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายการเติบโตเบี้ยประกันกลุ่มว่าจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 40% ภายในปี 2568 อีกทั้งยังตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการประกันภัยกลุ่มชั้นนำระดับภูมิภาคในอีก 3 - 4 ปีข้างหน้า และคาดหวังว่าการปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ นั้นจะทำให้แรบบิท แคร์ สามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการประกันกลุ่มสวัสดิการพนักงาน รวมถึงผู้นำการให้บริการที่มีแนวคิดที่สอดคล้องกับเทรนด์ "Employee Well-Being" ต่อลูกค้ากลุ่มองค์กร ที่เป็นที่ปรึกษาด้านสวัสดิการพนักงานที่สมบูรณ์แบบภายใต้แนวคิด "Think Globally and Act Locally" ที่จะมีการศึกษาและนำเอาข้อมูลเชิงลึกจากการทำงานและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ( Local Consumer Insight) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดี ในราคาคุ้มค่า รวมทั้งยังสนับสนุนการมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีให้กับพนักงานโดยยังได้จัดทำโปรแกรม "Health Talk by Doctor" ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้คำแนะนำซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างสูง"

นายพิงพรรณ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับทางลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้สวัสดิการที่พนักงานขององค์กรจะได้รับผลประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุดควบคู่ไปกับค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล โดยบริษัทฯ ยังสามารถช่วยออกแบบการคุ้มครองจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ผลประโยชน์และความคุ้มครองที่มาจากข้อมูลประวัติการเคลมที่แท้จริงของพนักงาน ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากมีการปรับเพิ่มขึ้นในทุกปี ฯลฯ ทั้งนี้ จากการออกแบบ ใส่ใจ และดูแลลูกค้ากลุ่มบริษัทอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้การดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัทฯได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากทางลูกค้าอย่างเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ทั้งยังมีการแนะนำบอกต่อในแวดวงฝ่ายบุคคลของภาคธุรกิจต่าง ๆ อีกด้วย

"ความสำเร็จที่ผ่านมาของบริการประกันภัยสำหรับภาคองค์กรที่ แรบบิท แคร์ ได้ให้บริการนั้นมาจาก ความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่จะส่งมอบคุณค่าด้านประกันให้คนไทย ตามแนวคิด 'ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ' (Complete Care) โดยนอกจากบริการหลักแล้ว ยังใช้ประสบการณ์อันเชี่ยวชาญ และความสามารถในการจัดหาสวัสดิการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่องค์กรต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบริการให้คำแนะนำจัดทำห้องพยาบาลให้กับองค์กรของลูกค้า จัดหาบริการฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพประจำปีของพนักงาน การอำนวยความสะดวกการให้บริการทันตกรรมด้วยรถทำฟันเคลื่อนที่ ให้คำแนะนำการวางแผนการจัดทำ Flexible Benefits รวมถึงคำแนะนำสำหรับการวางแผนประกันส่วนบุคคลพนักงานและครอบครัว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีช่องทางสำหรับการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานซึ่งเป็นผู้ใช้สวัสดิการ เพื่อลดความกังวลต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้บริการด้านประกันผ่าน Rabbit Care LINE OA @rcare ให้ผู้ใช้บริการสามารถสอบถามความคุ้มครอง ตรวจสอบการเคลมสินไหม หรือให้คำแนะนำการใช้งาน Mobile Application การเบิกเคลมผ่าน e-Claim
ได้ครบจบในที่เดียว" นายพิงพรรณ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับภาคธุรกิจที่สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์บริการประกันองค์กรเพิ่มเติมพร้อมสมัครรับบริการได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนบนเว็บไซต์แรบบิท แคร์ https://rabbitcare.com/corporate-insurance ติดตามข่าวสารพร้อมอัปเดตโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแรบบิท แคร์ https://www.facebook.com/RabbitCareTH