แอลจี ประกาศปรับผังโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Future Vision 2030

25 Nov 2024

ปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ เสริมสร้างการผนึกกำลังและผลักดันการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลัก

แอลจี ประกาศปรับผังโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Future Vision 2030

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (แอลจี) ประกาศปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้งผู้บริหารใหม่ภายหลังได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท โดยการปรับผังองค์กรครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการดำเนินกลยุทธ์ระยะกลางและระยะยาวของบริษัทตามวิสัยทัศน์ "Future Vision 2030" ด้วยการเสริมสร้างการผนึกกำลังภายในองค์กรและสร้างนวัตกรรมให้แก่พอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจของแอลจี

การปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การจัดกลุ่มใหม่ให้ส่วนธุรกิจของแอลจี เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจเดิมอย่างเต็มที่ เสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานด้านบริการบนแพลตฟอร์ม เร่งการดำเนินงานของโครงการในกลุ่มธุรกิจ B2B และสร้างกลไกการเติบโตใหม่ในภาคส่วนที่มีศักยภาพ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพผ่านการคัดเลือกและรวมศูนย์ขีดความสามารถอย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยสร้างการผนึกกำลังระหว่างกลุ่มธุรกิจให้มากขึ้นและเสริมความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต

ทั้งนี้ แอลจีได้แต่งตั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีทักษะที่โดดเด่น เพื่อให้เป็นแกนนำในการปรับเปลี่ยนองค์กรในครั้งนี้ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาวของบริษัท ผ่านการพัฒนาภาคธุรกิจองค์กรที่มีผลงานที่แข็งแกร่ง

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในโครงสร้างธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจใหม่จะได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่การเติบโตของธุรกิจเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (HVAC) ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การเร่งผลักดันในกลุ่มธุรกิจ B2B ของแอลจี โดยบริษัทด้านการขายและการทำตลาดต่างประเทศจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนศูนย์ควบคุมกลุ่มธุรกิจ B2B ในต่างประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับจอแสดงผล ซึ่งรวมถึงโทรทัศน์ จอมอนิเตอร์ และป้ายดิจิทัล จะได้รับการควบรวมเข้าด้วยกัน เพื่อส่งเสริมการผนึกกำลังและการขยายธุรกิจบริการบนแพลตฟอร์ม ส่วนกลุ่มธุรกิจที่เป็นดั่งกลไกการเติบโตใหม่จะได้รับการโยกย้ายไปยังกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกันในเชิงธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ต่อเนื่องยิ่งขึ้น อันจะทำให้เกิดการผนึกกำลังกันระหว่างธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ

กลุ่มธุรกิจทั้งสี่กลุ่มจะได้รับการเพิ่มคำว่า "โซลูชัน" เข้าไปในชื่อ สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของแอลจีสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันชีวิตอัจฉริยะ (Smart Life Solution Provider) ที่เชื่อมต่อและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งที่บ้าน พื้นที่เชิงพาณิชย์ การเดินทาง และแพลตฟอร์มเสมือนจริง

การปรับโครงสร้างบริษัท

แอลจีได้ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจทั้งสี่แห่งเป็นกลุ่มธุรกิจโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home Appliance Solution: HS) กลุ่มธุรกิจโซลูชันด้านสื่อและความบันเทิง (Media Entertainment Solution: MS) กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ (Vehicle Solution: VS) และกลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco Solution: ES) ซึ่งการจัดองค์กรใหม่นี้ได้กำหนดบทบาทและอัตลักษณ์ใหม่ภายในแอลจี

กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ (H&A) จะเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มธุรกิจ HS เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์เรื่อง "ความสะดวกสบายภายในบ้าน ทำให้เกิดช่วงเวลาดีๆ (Zero Labor Home, Makes Quality Time)" เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ดังกล่าว แอลจีจะย้ายศูนย์กลางธุรกิจด้านแพลตฟอร์ม ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการวางแผน การพัฒนา และดำเนินงานของ LG ThinQ ให้ไปอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ HS โดยตรง การปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์นี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างกลุ่มธุรกิจ HS ให้เป็นผู้นำด้านโซลูชัน AI ในพื้นที่ต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งในบ้าน พื้นที่เชิงพาณิชย์ และในยานยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้านอกเหนือไปจากการใช้งานภายในบ้านแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจ HS จะรวมกลุ่มธุรกิจหุ่นยนต์จากกลุ่มธุรกิจ BS เพื่อผสานเทคโนโลยีหลักของหุ่นยนต์เข้ากับโซลูชันหุ่นยนต์ภายในบ้าน โดยนายแจชอล รยู จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำของกลุ่มธุรกิจ HS

กลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (HE) จะเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มธุรกิจ MS เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มสื่อและความบันเทิง โดยจะรวมธุรกิจด้านจอแสดงผลข้อมูล และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศจากกลุ่มธุรกิจ BS เข้ากับธุรกิจโทรทัศน์ เพื่อสร้างการผนึกกำลังในการดำเนินงานด้านฮาร์ดแวร์และแพลตฟอร์ม โดยนายฮยองเซ พัค จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำกลุ่มธุรกิจ MS เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นแพลตฟอร์มด้านสื่อและความบันเทิง

กลุ่มธุรกิจ MS จะเร่งขยายธุรกิจบริการบนแพลตฟอร์ม ด้วยการต่อยอดการใช้งาน webOS ซึ่งแต่เดิมมีการใช้งานหลักอยู่ในสมาร์ททีวี สู่การใช้งานในจอมอนิเตอร์ ป้ายดิจิทัล และระบบสาระบันเทิงภายในรถยนต์ โดย webOS จะพัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์มบูรณาการด้านคอนเทนต์และบริการที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานภายในและภายนอกอาคาร เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการผนึกกำลังและพัฒนาโครงสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

กลุ่มธุรกิจ VS ประกาศเปลี่ยนชื่อจากกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์เป็น 'กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์' เพื่อสะท้อนบทบาทที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในการมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมที่ครอบคลุมอีโคซิสเต็มของยานยนต์อย่างครบวงจร โดยมีนายซ็อกฮยุน อึน ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มธุรกิจต่อไป

กลุ่มธุรกิจโซลูชัน ES ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีธุรกิจ HVAC ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ H&A และเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของแอลจีในตลาดองค์กร (B2B) จะแยกตัวมาดำเนินงานเป็นกลุ่มธุรกิจอิสระภายใต้กลุ่มธุรกิจ ES โดยมีนายแจซอง อี หัวหน้ากลุ่มธุรกิจธุรกิจโซลูชันเครื่องปรับอากาศคนปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัท ES เพื่อรักษาความต่อเนื่องและทิศทางกลยุทธ์ของธุรกิจ HVAC

ด้วยลักษณะการดำเนินธุรกิจ HVAC ที่เน้นการทำงานในรูปแบบโครงการ รวมถึงตลาดและกลุ่มลูกค้ามีลักษณะเฉพาะ แอลจีจึงเล็งเห็นว่าการแยกการดำเนินงานเป็นกลุ่มธุรกิจอิสระจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและโอกาสการเติบโตในอนาคตได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การจัดตั้งกลุ่มธุรกิจโซลูชัน ES สะท้อนเป้าหมายของแอลจีในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันระบบปรับอากาศแบบครบวงจร

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจโซลูชัน ES จะรับโอนธุรกิจสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าจากบริษัทโซลูชันสำหรับองค์กร (BS) มาดำเนินการอีกด้วย และจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดองค์กรในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะผลักดันการเติบโตในอนาคตของแอลจีต่อไป

ขณะเดียวกัน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มลูกค้าองค์กรในต่างประเทศ แอลจีจะจัดตั้งสายงานพัฒนาศักยภาพธุรกิจองค์กร (B2B Business Capability Enhancement Division) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทด้านการขายและการตลาดต่างประเทศ

สำนักงานยุทธศาสตร์องค์กร (CSO) ในฐานะศูนย์กลางการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในอนาคตของแอลจี จะกำกับดูแลการเร่งพัฒนาด้านเทคโนโลยี AI และตอบสนองต่อพัฒนาการด้าน AI ในระดับโลก โดยสำนักงานดิจิทัล (Chief Digital Office) ซึ่งเดิมรับผิดชอบด้านการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัล จะได้รับการปรับโครงสร้างเป็นศูนย์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (DX Center) และได้ย้ายมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CSO โดยตรง ทั้งนี้ ศูนย์ DX จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนศักยภาพทางธุรกิจผ่านเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) โดยมีนายจองบอม โช เป็นหัวหน้าองค์กร

การแต่งตั้งผู้บริหารในครั้งนี้เน้นการคัดเลือกบุคลากรที่มีความหลากหลายและมีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งยังได้พิสูจน์ความสามารถทั้งในด้านการขาย การบริการ รวมถึงการวิจัยและพัฒนา โดยนายพิลวอน จอง หัวหน้ากลุ่มการขายและการตลาดต่างประเทศสำหรับธุรกิจทีวีคนปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา (MEA) ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการบริหารงานขายต่างประเทศและความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้งในภูมิภาคดังกล่าว นอกจากนี้ นายจองโฮ คิม นายยูชอน คิม และนายจองวอน ชเว หัวหน้าบริษัทในเครือประจำประเทศซาอุดีอาระเบีย โปแลนด์ และมาเลเซียตามลำดับ ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูง จากผลงานอันโดดเด่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ

ทั้งนี้ การแต่งตั้งทั้งหมดจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม และการเลื่อนตำแหน่งจะมีผลในวันที่ 1 มกราคม