ไทยเครดิตเผยแผนธุรกิจปี 2568

13 Feb 2025

ไทยเครดิตเผยแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อในระดับสองหลัก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง เป็นเลิศด้านการดำเนินงาน พร้อมเป็นธนาคารที่ทุกคนเข้าถึงได้ สร้างผลกำไรปี 2567 สูงสุดในประวัติการณ์

ไทยเครดิตเผยแผนธุรกิจปี 2568

ไทยเครดิต เผยแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานและเป้าหมายทางธุรกิจปี 2568 เดินหน้าสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ เร่งผลักดันการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล เพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ภายใต้การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน หลังประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 ด้วยผลกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,624.0 ล้านบาท ยืนยันความเชื่อมั่นในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) (CREDIT) ได้มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ประจำปี 2567 พร้อมประกาศแผนยุทธศาสตร์เดินหน้าธุรกิจในการเติบโตที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT กล่าวว่าธนาคารมุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายย่อยและกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อที่อยู่ในระบบ โดยธนาคารมุ่งเน้นไปที่การบริหารคุณภาพของสินเชื่อที่ดี รอบคอบ รัดกุม รวมถึงความเป็นเลิศในการดำเนินการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจเกินความคาดหมาย ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งมอบคุณค่าที่แท้จริง เน้นการยึดหลักมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของลูกค้าบนสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าเพื่อให้ธนาคารสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าอย่างราบรื่นและเติบโตได้ต่อไปในอนาคต

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT เปิดเผยว่าธนาคารไทยเครดิตกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลระยะที่ 2 (Digital Transformation) กล่าวคือการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเปิดตัวระบบคอร์แบงกิ้งใหม่ของธนาคาร (New Digital Core Banking System) โดยถือเป็นการยกระดับระบบและแพลตฟอร์มของธนาคารให้สมบูรณ์แบบ ตอบสนองต่อกระแสดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างรากฐานของระบบให้แข็งแกร่ง เพื่อรักษาความสามารถในการเติบโตในระยะยาว พร้อมพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ

โดยได้ธนาคารได้มีการกำหนดเป้าหมายสำคัญทางการเงินสำหรับปี 2568 ดังนี้

  • ด้านการเติบโตของการให้สินเชื่อ (Loan Growth) ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการเติบโตสินเชื่อหลักที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (MSME) สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน และสินเชื่อบุคคล อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบ พร้อมตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อในปี 2568 ในระดับเลขสองหลัก
  • ด้านส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในช่วง 8.5-9.0% ควบคู่ไปกับการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ พร้อมรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า
  • ด้านเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL) ที่ให้อยู่ในระดับที่น้อยกว่า 4.5%

ทั้งนี้กลยุทธ์สำคัญที่ธนาคารใช้ขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย 2 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การขยายสินเชื่อในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นจุดแข็งของธนาคาร และ 2) การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

อีกทั้ง เพื่อยกระดับการเข้าถึงธนาคารที้สะดวกยิ่งขึ้น ธนาคารได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินอย่างชาญฉลาดและสร้างเสริมอนาคตทางการเงินที่แข็งแกร่ง ผ่านแอปพลิเคชัน alpha by Thai Credit ที่ช่วยให้ลูกค้าบุคคลสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกทุกที่ทุกเวลา โดยในปี 2567 มีผู้ใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 และมีมูลค่าธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากปีก่อน เป็นประมาณ 19,000 ล้านบาท ในปี 2567 ด้านการเติบโตของ "ไมโครเพย์ อี-วอลเล็ต" แอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการทางการเงินของกลุ่มลูกค้านาโนและไมโครเครดิต มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และมีมูลค่าธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีก่อน เป็นประมาณ 26.1 ล้านบาท พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแรงในการเข้าถึงฐานลูกค้าของธนาคาร รวมถึงสามารถขับเคลื่อนกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยธนาคารได้มีแผนรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

ธนาคารไทยเครดิตเดินหน้ายกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเน้นการนำเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนกระบวนการให้บริการ ตลอดจนการให้ความรู้ พัฒนา และเสริมทักษะทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อย เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ร้านขายของชำ รวมทั้งกลุ่มเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี เพื่อใช้ในการวางแผนทางการเงินเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ปรัชญา "Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ" ที่มุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ที่มีความเท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit