บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ "WHAUP" เปิดแผนธุรกิจปี 2568 เร่งขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ มุ่งสู่การเป็น Tech Driven Organization รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Data Center ในนิคมฯ WHA พร้อมอัดงบลงทุนรวม 5 ปี (2568-2573) ที่ 29,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี ที่ 35,000 ล้านบาท และรักษา EBITDA margin ที่ระดับไม่น้อยกว่า 50%
นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมก้าวสู่การเป็นการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Tech-Driven Organization) โดยวางกลยุทธ์หลักในการขยายความเป็นผู้นำในด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve ให้กับองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนจากการต่อยอดธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านแผนกลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจ ดังนี้
ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ในปี 2567 บริษัทฯ มีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำรวมอยู่ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นการเติบโต 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำในประเทศจำนวนทั้งสิ้น 128 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 6% ขณะที่ปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำในเวียดนาม อยู่ที่ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 13% สำหรับในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายการให้บริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Data center ที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำสูง และจะมุ่งเน้นการผลิตน้ำที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value-Added Water) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมองหาแหล่งน้ำดิบทดแทน เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านการจัดหาน้ำ และรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคในพื้นที่นอกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ รวมไปถึงการเข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับน้ำประปาและการจัดการน้ำเสียของหน่วยงานภาครัฐรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ได้มีการตั้งเป้ายอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 4% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นยอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำภายในประเทศประมาณ 132 ล้านลูกบาศก์เมตร และในประเทศเวียดนามประมาณ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร
ธุรกิจพลังงาน ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับลูกค้าอุตสาหกรรม (Private PPA) เพิ่ม 76 สัญญา หรือเท่ากับ 106 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 965 เมกะวัตต์ สำหรับในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ และทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff และโครงการ Direct PPA เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้เริ่มดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ Micro Grid ที่นิคมเขตอุตสาหกรรม WHA Smart Technology Zone 1 ในจังหวัดทัญฮว้า (Thanh Hoa) เฟส 1 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2569 สำหรับในปี 2568 นี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,185 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นพลังงานหมุนเวียน 657 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 55% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ WHAUP เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรม โดยในส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค บริษัทฯ ได้เดินหน้าพัฒนา Smart Water Solutions ด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการบริหารจัดการระบบน้ำอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการให้บริการลูกค้า ลดการสูญเสียน้ำ และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีความแม่นยำและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของธุรกิจพลังงานไฟฟ้า บริษัทฯ ได้นำ AI มาพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบ Solar Anomaly ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติของแผงโซลาร์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และระบบ Solar Forecasting ซึ่งช่วยคาดการณ์ปริมาณการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนซ่อมบำรุงรวมถึง ลดต้นทุน และเพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer (P2P Energy Trading) รวมถึงการซื้อขายใบรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (I-REC) ซึ่งช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร
และเพื่อก้าวสู่อนาคต บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนใน ธุรกิจ New S-Curve ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอนาคต อาทิ
ด้านนายประพนธ์ ชินอุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน WHAUP กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานใน 5 ปี (2568-2572) บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนภายใน 5 ปี ที่ 29,000 ล้านบาท สำหรับรองรับการลงทุนขยายธุรกิจทั้งด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน โดยวางแผนสร้างรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติให้เติบโต 2.5 เท่าจากปี 2567 และตั้งเป้าหมายมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติของบริษัทฯ รวม 5 ปีข้างหน้าที่ 35,000 ล้านบาท รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไร EBITDA margin ที่ระดับไม่น้อยกว่า 50%
นายสมเกียรติ กล่าวปิดท้ายว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการสร้างคุณค่าให้กับสังคม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2572 อาทิเช่น การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 683,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และการลดการใช้น้ำจากธรรมชาติลงประมาณ 25,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณการใช้น้ำของภาคครัวเรือนกว่า 685,000 คน โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับ AAA ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด เป็นปีที่สองติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ตามพันธกิจของ WHA Group " WHA : WE SHAPE THE FUTURE" ได้เป็นอย่างดี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit