"ไข้หวัดใหญ่" ไม่ใช่แค่ "ไข้ธรรมดา" อย่าชะล่าใจเมื่อมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เช็กให้ชัวร์! สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม ต้องรีบรับมือก่อนจะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความคิดว่า "แค่ไข้" ทำให้คุณเสี่ยงกับอันตรายร้ายแรง เพราะอาการลุกลามเกิดภาวะปอดอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด หัวใจล้มเหลว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ !!!
พญ.มัณฑนา สันดุษฎี อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (มกราคม-มีนาคม) ของทุกปี โดยไข้หวัดใหญ่มี 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ A, B และ C แต่มีเพียงสายพันธุ์ A และ B ที่มีการระบาดทั่วไป
"ไข้หวัดใหญ่" ไม่ใช่แค่ "ไข้ธรรมดา" อย่างที่หลายคนเข้าใจ เนื่องจากเชื้อไวรัสทั้งสองชนิด มีความแตกต่างกันอย่างมาก ไข้หวัดธรรมดาเกิดจากไวรัสหลายสายพันธุ์ เช่น ไรโนไวรัส (Rhinovirus) โคโรนาไวรัส (Coronavirus) แต่ "ไข้หวัดใหญ่" เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา โดยอาการของ "ไข้หวัดใหญ่" คือ ไข้สูงเฉียบพลัน, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่อ, ปวดศีรษะรุนแรง เจ็บคอ ไอแห้ง หรือมีเสมหะ, อ่อนเพลียมาก, บางครั้งอาจมีอาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย
สำหรับคนไข้บางรายเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่อาจมีอารการไม่รุนแรง แต่ในบางรายอาการอาจหนักมากและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น
พญ.มัณฑนา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพดี ก็ยังเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งอาการป่วยมักอยู่ระหว่าง 3 วัน ถึง 1 สัปดาห์ แต่บางรายอาจมีอาการอ่อนเพลียยาวนานได้หลายสัปดาห์ การรักษาแม้โรคไข้หวัดใหญ่ในคนที่อาการไม่มากสามารถหายเองได้ แต่การพบแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การได้รับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่เช่น โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) จะทำให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น ลดระยะเวลาการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น และลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน
โดยปัจจุบันการป้องกัน "ไข้หวัดใหญ่" ที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ และการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของอาการ และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น ปอดอักเสบและหัวใจวาย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ที่จำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูง ได้แก่
พญ.มัณฑนา กล่าวปิดท้ายว่า "วัคซีนไข้หวัดใหญ่" มีการอัปเดตทุกปีโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อให้ครอบคลุมเชื้อไวรัสที่มีความเสี่ยงระบาดสูง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 หรือ 4 สายพันธุ์ที่ฉีดป้องกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ และ B อีก 1 หรือ 2 สายพันธุ์ย่อย ซึ่งการฉีดวัคซีนจะช่วยลดความรุรแรงของอาการ ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ลดอัตราการติดเชื้อและลดโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่น
นอกจากนี้ยังมีวัคซีนอีกชนิดหนึ่งที่แนะนำให้ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน, โรคไตเรื้อรัง, ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ และผู้ที่ได้รับเคมีบำบัด ฉีดควบคู่กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คือ วัคซีนนิวโมคอคคัส (Pneumococcal Vaccine) วัคซีนชนิดนี้จะช่วยลดความรุนแรงของการเกิดปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสและการติดเชื้อในกระแสเลือดจากเชื้อตัวนี้ โดยวัคซีนนี้ปัจจุบันฉีดเพียง 1 เข็ม (PCV20) และป้องกันได้ตลอดชีวิต
สำหรับการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ เราทุกคนสามารถป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย ๆ ด้วยการ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์, พักผ่อนให้เพียงพอ, ล้างมือบ่อย ๆ และที่สำคัญต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี
"การเตรียมตัวและการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากไข้หวัดใหญ่ อย่าปล่อยให้โรคนี้มาคุกคามสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก เตรียมตัวให้พร้อมในทุกฤดูกาล ด้วยการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยและสุขภาพดีในระยะยาว"
นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า เป็นประธานเปิดกิจกรรม "วันพาร์กินสันโลก 2025" เพื่อส่งต่อความรู้และช่วยเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน ภัยเงียบโรคสมองเสื่อมที่ต้องระวัง โดยมี นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองกรรมการผู้อำนวยการ และ นพ.สิทธิ เพชรรัชตะชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและโรคพาร์กินสันและการเคลื่อนไหวผิดปกติ ร่วมงาน โดยภายในงานจะมีกิจกรรมให้ความรู้ที่หลากหลาย เช่น บูธข้อมูลเกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน, แนวทางการดูแลรักษา, บูธโภชนาการแนะนำอาหารที่
นอนละเมอ ท้องผูกเรื้อรัง มือสั่น ภัยเงียบ "โรคพาร์กินสัน" หนึ่งในกลุ่ม "โรคสมองเสื่อม" ที่พบผู้ป่วยอันดับ 2 รองจาก "โรคอัลไซเมอร์"
—
หลายคนมักมองข้ามอาการ...
โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวนร่วมกิจกรรม "วันพาร์กินสันโลก" รู้เร็ว ป้องกันได้
—
โรงพยาบาลพระรามเก้า ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม "วันพาร์กินสันโลก" ในวันที่ 9 เมษา...
"ไตเสื่อม" ไม่แสดงอาการ... แต่ผลลัพธ์ร้ายแรง แพทย์เตือน!!! คนไทยควรดูแล "ไต" ให้แข็งแรง ก่อนสายเกินไป
—
"ไต" อวัยวะเล็กๆ ที่มักถูกมองข้าม แต่มีความสำคัญอย...
โรงพยาบาลพระรามเก้ารับมอบเหรียญพระราชทาน โครงการผ่าตัดปลูกถ่ายไตถวายเป็นพระราชกุศล ตอกย้ำภารกิจแห่งการให้เพื่อผู้ป่วยโรคไต
—
โรงพยาบาลพระรามเก้าตอกย้ำความ...
โรงพยาบาลพระรามเก้า จัดกิจกรรม World Kidney Day 2025 ภายใต้แคมเปญ "Are you Kidney OK?"
—
โรงพยาบาลพระรามเก้า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์เนื่องในวันไตโลก ...
โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัลระดับโลก THE STAR OF EXCELLENCE FOR ULTHERAPY TRANSDUCER 2024 สะท้อนความสำเร็จการดูแลผิวพรรณอย่างเหนือระดับ
—
ปรบมือดัง ๆ ให...
ไตดี ชีวีมีสุข.... โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวนร่วมกิจกรรมวันไตโลก 2025
—
รู้หรือไม่ ...คนไทยกว่า 17.6% ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง โดยไม่รู้ตัว! และในแต่ละปีมีผู้ป่...
มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ภัยเงียบที่ผู้หญิงต้องระวัง!! ปกป้องตัวเองจากมะเร็งก่อนจะสายเกินไป
—
มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก… โรคฮิตที่พบมากที่สุดในผู...
PR9 ทุบสถิติรายได้ปี 67 All Time High 4.6 พันล้านบาท กำไรพุ่ง 27.8% โชว์ศักยภาพผู้นำการแพทย์พรีเมียม พร้อมรุกตลาดต่างชาติ
—
PR9 รายงานผลประกอบการปี 67 ทำน...