"ไดกิ้น" วางเป้าใหญ่ก้าวสู่ปีที่ 101 ด้วยรากฐานนวัตกรรมยั่งยืน สร้างรายได้ 15,000 ล้าน สู่ผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศไทยและโลก

30 Jan 2025

กลุ่มบริษัท ไดกิ้น ก้าวสู่ปีที่ 101 ตั้งเป้าหมายใหญ่เติบโต 25% รายได้ 15,000 ล้านบาท สร้างรากฐานความยั่งยืนในตลาดเครื่องปรับอากาศ ที่เน้นความล้ำสมัย สะดวกสบาย ลดใช้พลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลุยเปิดตัวหลากนวัตกรรมใหม่ กลุ่มที่อยู่อาศัยและพาณิชย์, จัดตั้งทีม Solution Business Team ให้คำปรึกษาและออกแบบตอบโจทย์ทุกพื้นที่ พร้อมทุ่มงบการตลาดกว่า 500 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายและเดินหน้ากลยุทธ์ Sport Marketing ต่อเนื่อง เตรียมก้าวสู่ผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในไทยและระดับโลกอย่างยั่งยืน

"ไดกิ้น" วางเป้าใหญ่ก้าวสู่ปีที่ 101 ด้วยรากฐานนวัตกรรมยั่งยืน สร้างรายได้ 15,000 ล้าน สู่ผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศไทยและโลก

นายไดสุเกะ มุราคามิ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา เป็นปีที่มีความหมายอย่างมากสำหรับไดกิ้น จากที่เราได้ฉลองครบรอบ 100 ปีองค์กร รวมถึงมีการขับเคลื่อนครั้งสำคัญที่สอดรับกับโอกาสทางเศรษฐกิจ จากที่อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ได้มีภาพรวมการเติบโตที่ดีด้วยการเป็นหนึ่งในปัจจัยจำเป็นต่อผู้บริโภค ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีแนวโน้มร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ผลการดำเนินงานของไดกิ้น (ประเทศไทย) ในปี 2024 ได้สะท้อนว่าตลาดเครื่องปรับอากาศแบบติดผนังในประเทศมีการเติบโตในเชิงจำนวน เพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับรายงานของบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ และยังเป็นตัวเลขที่ชี้ว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการสินค้าในระดับสูง

"ส่วนฝั่งของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ มีโอกาสสำคัญที่เกิดจากเทรนด์ปรับปรุงและรีโนเวทอาคารเก่า ที่ผู้ประกอบการเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารลดการปล่อยคาร์บอน (Carbon Footprint) เพื่อตอบสนองต่อการขับเคลื่อนในเรื่อง ESG (Environmental, Social, Governance) และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายพลังงานในระยะยาว ทำให้ไดกิ้นที่มุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่เน้นประหยัดพลังงาน สะดวกสบาย และยั่งยืน จึงสามารถตอบโจทย์ลดใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นได้อย่างดี"

อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงในตลาดเครื่องปรับอากาศนี้ ยังได้แบ่งกลุ่มความต้องการออกอย่างชัดเจน โดยผู้บริโภคในปัจจุบันจะเน้นให้ความสำคัญกับ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ (1) เครื่องปรับอากาศราคาประหยัด ที่เน้นคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานในราคาที่เข้าถึงได้ (2) เครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูงที่มีฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ล้ำหน้า เช่น การประหยัดพลังงานระดับสูง, การควบคุมผ่านอุปกรณ์ดิจิทัล, การช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศ หรือการฆ่าเชื้อด้วยระบบ Streamer เป็นต้น

ในปี 2025 นี้ ไดกิ้นได้นิยามคุณภาพและความเป็นเลิศของเครื่องปรับอากาศแห่งอนาคต ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการผลิตที่พิถีพิถันและได้มาตรฐาน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุมทั้งในกลุ่มเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์

เครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย (Room Air Series) ปี 2025 เสริมทัพ MAX Inverter Star Series ด้วยเครื่องปรับอากาศที่อัดแน่นด้วยคุณภาพและชิ้นส่วนแท้ตามมาตรฐานญี่ปุ่น โดยทุกรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันกันไฟกระชาก เย็นเร็วด้วย Powerful Mode และคุณสมบัติป้องกันการเข้าถึงของสัตว์ขนาดเล็กอย่างจิ้งจก

  • FTKC-Z เครื่องปรับอากาศรูปลักษณ์ทันสมัย ฟังก์ชันครบจบในเครื่องเดียว ติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 2 ดาวและระบบควบคุมสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน Daikin Controller พร้อมระบบยับยั้งเชื้อโรค Streamer เฉพาะของไดกิ้น
  • FTKD-Z เครื่องปรับอากาศรุ่นเริ่มต้นสำหรับคนยุคใหม่ ในราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมระบบ Streamer ช่วยยับยั้งเชื้อโรค และฟังก์ชันอื่น ๆ อัดแน่นในเครื่องเดียว

รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ Max Inverter Sabai Series สบายซีรีส์ (FTKB-Z) เครื่องปรับอากาศที่จะช่วยสร้างความสบายใจและสบายกระเป๋า ในราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้นแบบที่ไดกิ้นไม่เคยมีมาก่อน พร้อมจุดเด่นเรื่องค่าไฟ ที่มีค่า SEER สูงสุดถึง 18.20 และเสียงตัวเครื่องภายในที่ให้ความเงียบเทียบเท่าเสียงลมหายใจเพียง 19 dB

เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (Commercial Air Solutions) ปี 2025 จะมุ่งตอบโจทย์นโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและแนวทาง ESG ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของผู้ใช้งานในประเทศไทย ทั้งกับภาครัฐ เอกชน นักออกแบบ นักพัฒนา เจ้าของอาคาร โดยเน้นผสานเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและยั่งยืนเข้าด้วยกัน

  • VRV 6th Generation เครื่องปรับอากาศรุ่นที่ 6 ของ VRV ที่ถูกเติมเต็มด้วยประสิทธิภาพแบบเต็มพิกัดด้วยการประหยัดไฟสูงสุดเบอร์ 5 แบบ 5 ดาว ทำให้นอกจากการดีไซน์ที่ลงตัวซึ่งเป็นจุดเด่นของ VRV อยู่แล้ว ยังเสริมให้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานมากขึ้นไปอีกด้วย
  • Chiller New Series เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ในกลุ่ม Applied Product รุ่นปี 2025 จะมีสารทำความเย็นแบบใหม่อย่าง R1233ZD ซึ่งมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในปัจจุบัน และสามารถทำความเย็นได้สูงถึง 2000 ตันความเย็น พร้อมใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ในระดับ 49 kW/RT

นายไดสุเกะ กล่าวเสริมว่าการก้าวเข้าสู่ปีที่ 101 ของกลุ่มไดกิ้น จะคงดำเนินธุรกิจภายใต้ค่านิยมหลัก ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่องค์กรใช้ในการเติบโตมาโดยตลอด นั่นคือ

  1. ความน่าเชื่อถือสูงสุด ด้วยการสร้างความไว้วางใจและโปร่งใสกับลูกค้า เพื่อนร่วมงาน พันธมิตร และชุมชน
  2. บริหารจัดการด้วยจิตวิสัยแห่งผู้ประกอบการ ที่สนับสนุนการเติบโตด้วยการส่งเสริมและให้รางวัลแก่พนักงานที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์และความเป็นเลิศ
  3. สร้างความสัมพันธ์ที่กลมกลืน ภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและความทุ่มเทเพื่อเป้าหมายร่วมกัน

อีกทั้ง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี HVAC ไดกิ้นไม่เพียงแต่สร้างความก้าวหน้าในเชิงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนความยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นในโครงการเก็บกู้สารทำความเย็นเพื่อลดการปล่อยสู่บรรยากาศ, โครงการฝึกอบรมอาชีพที่มุ่งให้ความรู้ ทักษะ และจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่เยาวชน อีกทั้งในปี 2025 นี้ ไดกิ้นยังตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนาในทั้งภาคที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ด้วยการจัดตั้ง Solution Business Team ที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยลูกค้าออกแบบระบบที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ใช้งาน สร้างเป็นโซลูชันที่สะดวกสบาย ช่วยลดการใช้พลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยาว

นอกจากนี้ ไดกิ้นยังมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จของกลยุทธ์ Sport Marketing ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง เช่น การเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของฟุตบอลทีมชาติไทย, สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, การสนับสนุนเซ็นสัญญาสิทธิ์ตั้งชื่อสนามฟุตบอลสโมสรชลบุรี เอฟซีเป็น "ชลบุรี ไดกิ้น สเตเดียม" อย่างเป็นทางการ รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนทัวร์นาเมนต์กีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 เป็นต้น

ในปี 2025 นี้ ไดกิ้นได้เตรียมงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายและเดินหน้ากลยุทธ์ Sport Marketing อย่างเต็มที่ โดยมุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ ทั้งด้านการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจและการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ โดยคำนึงถึงความมั่นคงและยั่งยืนในทุกด้านของการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในไทย

"ซึ่งด้วยความพร้อมที่มี ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การตลาด และทีมผู้เชี่ยวชาญ ไดกิ้นจึงตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2025 ที่ 15,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเติบโตครอบคลุมทั้งตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดเชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสร้างรากฐานสำคัญบนระบบนิเวศที่ปลอดภัย เพื่อนำสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีในระยะยาว พร้อมพาองค์กรก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในตลาดเครื่องปรับอากาศ ทั้งในไทยและระดับโลกอย่างยั่งยืน" นายไดสุเกะ กล่าวย้ำทิ้งท้าย

"ไดกิ้น" วางเป้าใหญ่ก้าวสู่ปีที่ 101 ด้วยรากฐานนวัตกรรมยั่งยืน สร้างรายได้ 15,000 ล้าน สู่ผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศไทยและโลก