ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี จุดประกายเด็กไฟ-ฟ้า คลาสครัวและคลาสเบเกอรี่ เติมเต็มทักษะการทำอาหาร ผ่านกิจกรรม Pop Up Restaurant เนรมิตภายในศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส รังสรรค์เมนูบอกเล่าเรื่องราวของอาหารโดยเด็กไฟ-ฟ้า ผ่านการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์รสชาติแบบฝรั่งเศส จัดเซอร์ไพรส์เสิร์ฟอาหารสื่อรักแทนความในใจมอบเป็นของขวัญวันแม่กับ 4 เมนูพิเศษ เริ่มโมเมนต์ประทับใจด้วย น้ำพันซ์ เครื่องดื่มต้อนรับเพิ่มความสดชื่น และเรียกน้ำย่อยกับอาหารทานเล่น (Appetizer) ในเมนูที่ชื่อ โวราวอง มะม่วงซัลซาซีฟู้ด ก่อนเสิร์ฟอาหารจานหลัก (Main Courses) คือ ไก่กอร์ดองเบลอซอสเห็ด คู่กับมันบด เติมความหวานปิดท้ายด้วยแครมบรูว์เลเสิร์ฟคู่กับชาฝรั่งเศส ซึ่งแต่ละเมนูล้วนมอบความอบอุ่นใจ เพราะทุกจานทำด้วยความรักและใส่ใจเพื่อให้คุณแม่ได้ทานฝีมือลูก ๆ ที่ตั้งใจทำกันอย่างสุดฝีมือ
“น้องเก้า” เด็กหญิงพันดาว สุธีบำรุงพันธ์ เด็กไฟ-ฟ้า คลาสครัวและคลาสเบเกอรี่ที่ชื่นชอบการทำอาหารมาตั้งแต่ชั้น ป. 6 เล่าถึงแรงบันดาลใจและความประทับใจว่า “หนูฝันอยากเป็นเชฟมืออาชีพที่เก่งทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน โดยมีแรงบันดาลใจจากการเข้าร่วมกิจกรรมมาสเตอร์เชฟ ชาเลนจ์ของโรงเรียน และเป็นตัวแทนไปคว้าอันดับหนึ่งจากแข่งขันระดับประเทศในโครงการศิลปะหัตถกรรมครั้งที่ 70 ของกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้รู้สึกว่าการทำอาหารเป็นเรื่องสนุกและมีความสุข แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ทำอาหารให้คุณแม่ เพราะทุกคนในบ้านติดอาหารรสมือคุณแม่ และวันนี้ดีใจมากที่มีโอกาสทำอาหารมื้อพิเศษให้กับคุณแม่ จึงใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งใจทำเต็มที่ให้ทุกเมนูออกมาดีที่สุด เพื่อให้คุณแม่ประทับใจและมั่นใจในศักยภาพของเรา พร้อมผลักดันให้เดินต่อไปบนเส้นทางนี้ ซึ่งที่ผ่านมาคุณแม่ก็ให้การสนับสนุนมาตลอดอยู่แล้ว และที่สำคัญขอขอบคุณศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ที่ทำให้พวกเราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้รับความรู้และความแนะนำดี ๆ จากเชฟมืออาชีพ พร้อมทั้งการดูแลอย่างดีจากพี่ ๆ ในศูนย์ฯ ทำให้รู้สึกว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้าน”
ด้านคุณแม่ของน้องเก้า น.ส.พัชริน ช่างพงษ์ เล่าว่า “ตอนลูกมาขอเรียนที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า แม่ยังไม่ค่อยมั่นใจ เพราะตอนนั้นเรียนอยู่แค่ชั้น ป. 6 เลยขอว่าให้สอบติด ม.1 ก่อน แต่วันสัมภาษณ์เห็นแววตาชัดเลยว่าอยากเรียนมาก ปกติแม่ก็เปิดโอกาสให้ลูกทำสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว และสิ่งที่ชอบมาก ๆ คือวิธีคิดเรื่องการให้ของศูนย์เรียนรู้ ไฟ-ฟ้า ซึ่งเราสอนลูกเสมอว่าควรเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ วันนี้ภูมิใจที่เห็นลูกพัฒนาฝีมือไปไกลมาก และดีใจที่ลูกได้เข้ามาเรียนที่นี่ ถือเป็นการสร้างพื้นฐานในการเตรียมตัวไปต่อในระดับที่สูงกว่า สำหรับวันนี้ประทับใจมากที่ได้ทานอาหารมื้อพิเศษฝีมือของลูก ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเชื่อว่าลูกทำได้ดีขนาดนี้ แม้พี่ ๆ ในศูนย์ฯ จะชื่นชมและขอให้เป็นตัวแทนในการแข่งขันบ่อย ๆ เพราะเวลาอยู่บ้านลูกแทบไม่ได้ทำครัวเลย แต่วันนี้ภูมิใจที่ได้มาเห็นศักยภาพที่แท้จริงของลูก และดีใจที่ลูกได้เติมเต็มความฝันที่อยากเป็นเชฟ ซึ่งครอบครัวเราไม่มีเงินทุนพอจะสนับสนุน เพราะการเรียนทำอาหารมีค่าใช้จ่ายสูง จึงเลือกสนับสนุนด้านวิชาการเป็นหลัก แต่โชคดีที่ศูนย์ฯ เปิดให้เรียนฟรีทุกอย่าง และสร้างพื้นที่ให้เด็กได้แสดงออกอย่างเต็มที่ พาไปทำกิจกรรมและแข่งขันตั้งแต่เวทีเล็ก ๆ จนไปถึงเวทีใหญ่ระดับประเทศ แม่อยากให้มีโครงการดี ๆ อย่างศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าไปทั่วประเทศ”
อีกหนึ่งความประทับใจจาก “น้องโบนัส” น.ส.เสาวลักษณ์ กาญจนรักษ์ เด็กไฟ-ฟ้า คลาสเบเกอรี่ ซึ่งเริ่มจากชอบทานขนมจนกลายมาเป็นคนชอบทำ เล่าว่า “หนูอาศัยอยู่กับคุณยาย ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับคุณแม่ แต่ในวันแม่ทุกปีจะทำการ์ดอวยพรมอบให้คุณแม่ และปีนี้เป็นโอกาสพิเศษมากที่ได้ทำขนมหวานเสิร์ฟเป็นของขวัญให้คุณแม่ ในบรรยากาศที่สวยงามและอบอุ่น ซึ่งตอนแรกคุณแม่ปฏิเสธจะไม่มาร่วมงาน แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจยอมลางาน ทำให้หนูดีใจมาก วันนี้เลยตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือ เพื่อให้แม่ประทับใจ เพราะปกติแทบจะไม่ได้ทำอาหารหรือขนมให้แม่กินเลย เนื่องจากคุณยายไม่ยอมให้เข้าครัว ต้องขอขอบคุณศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าอย่างมากที่ชวนเชฟเก่ง ๆ มามอบให้ความรู้และมอบประสบการณ์ตรงในการทำขนมกับเด็ก ๆ พร้อมทั้งให้การดูแลและคำแนะนำดี ๆ มาตลอด โดยจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพหารายได้เสริมหลังจากสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย”
ปิดท้ายด้วยคุณแม่ของน้องโบนัส น.ส.จุฑามาศ กาญจนรักษ์ บอกว่า “ตอนแรกที่ได้รับเชิญแม่ติดงานคิดว่าจะไม่มางานนี้ แต่พี่ ๆ ในศูนย์อยากให้มาเซอร์ไพรส์น้อง จึงตัดสินใจลางานมาให้กำลังใจและสร้างมั่นใจให้กับลูก ซึ่งวันนี้เด็ก ๆ ทำได้ดีมาก ภูมิใจที่ลูกไม่ได้เรียนดีอย่างเดียวสามารถทำอย่างอื่นได้ด้วย ตอนแรกที่ให้ลูกมาเป็นเด็กไฟ-ฟ้า เพราะอยากให้มีกิจกรรมทำยามว่าง แต่สิ่งที่แม่เห็นได้ชัดเจนคือ ลูกมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่ไม่เคยหยิบจับอะไร ตอนนี้ทำขนมเป็น และมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ยิ่งได้มาเห็นในวันนี้ยิ่งประทับใจ ตอกย้ำว่าตัดสินใจถูกต้องที่ให้ลูกมาเรียน รู้สึกว่าการเรียนคลาสเบเกอรี่มีประโยชน์กับลูกมาก สามารถยึดเป็นอาชีพเสริมในอนาคตได้แน่นอน แม้การเรียนหลักจะอยากให้มุ่งไปในสายวิชาการ มีอาชีพที่มั่นคงอย่างงานราชการ หรือเป็นเภสัชกร เพราะการทำร้านเบเกอรี่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งฐานะการเงินของครอบครัวไม่สามารถให้การสนับสนุนได้ อยากขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ดูแลให้คำแนะนำกับเด็กอย่างดี สอนให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และดีใจที่ทีทีบีมาเปิดศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าที่นนทบุรี ทำให้มีสิ่งดี ๆ มากมาย ช่วยพาเด็กไปเจอโลกกว้าง นอกจากนี้ ยังสอนให้รู้จักการให้อีกด้วย”
ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งมั่นและตั้งใจเดินหน้าจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ติดตามกิจกรรมดี ๆ ต่อได้ที่ https://www.ttbfoundation.org และ https://www.facebook.com/faifahbyttb
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit