ทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี วิงวอนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมคนขับที่มีอาการเหนื่อยล้าง่วงนอน จนนำไปสู่การหลับในขณะขับรถ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความสูญเสียและความเศร้าสลดบนท้องถนน ในประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ง่วงหลับในเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมากกว่าร้อยละ 20
นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ เปิดเผยว่าปัจจุบันอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากความเหนื่อยล้า ง่วงนอน ก่อให้เกิดความไม่พร้อมในการขับรถจนนำไปสู่การหลับในขณะขับรถ เป็นส่วนหนึ่งของความสูญเสียที่สามารถควบคุมได้โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการจราจรบนท้องถนน ซึ่งทุนง่วงอย่าขับฯ ได้ทำการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมต่อการป้องกันอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร
"ตัวอย่างล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นคือคนขับรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการพูดถึงอาการคนขับรถคันดังกล่าวก่อนเกิดอุบัติเหตุ มีอาการขับรถส่ายไปมา โดยไม่มีรอยเหยียบเบรค ยางล้อไม่แตก จนทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวผู้สูญเสีย เรายังจะต้องเจอกับเรื่องเหล่านี้ไปอีกนานแค่ไหน" นพ. มนูญ กล่าว
นพ. มนูญ กล่าวว่าทุนง่วงอย่าขับฯ เคยทำการสำรวจโดยใช้แบบสอบถามคนขับรถโดยสารและรถบรรทุก 4,331 คน เมื่อปี พ.ศ. 2549 พบว่า 28% ของคนขับรถอาชีพยอมรับว่าเคยหลับในระหว่างขับรถ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงทีเดียว
นพ. มนูญ กล่าวว่าโดยทั่วไป อาการหลับในระหว่างขับรถสามารถเกิดขึ้นได้จากการขับรถต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ได้พักรถ และการนอนหลับที่ไม่เพียงพอก่อนการขับรถ จึงทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ง่วงนอนจากการขับรถ ซึ่งทุนง่วงอย่าขับฯ ให้ข้อแนะนำอย่างต่อเนื่องว่าควรจะเปลี่ยนคนขับ หรือหากไม่สามารถเปลี่ยนได้ สมควรที่จะพักรถเพื่อไปงีบหลับ 10-15 นาที แล้วจึงกลับมาขับใหม่ ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของคนขับและหน่วยงานต้นสังกัดที่จะต้องกวดขันและให้การอบรมขับขี่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
"อย่างไรก็ตาม ในหลายครั้งที่คนขับรถฝืนขับต่อไป จนทำให้เกิดการหลับในโดยไม่รู้ตัว และช่วงไม่กี่วินาที อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ ในต่างประเทศได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเตือนก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติมในตัวรถ" นพ. มนูญ กล่าวและเสริมว่าอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่มีความจำเป็นมากนัก หากหน่วยงานภาครัฐออกมารณรงค์ให้ความสำคัญต่อพฤติกรรมของคนขับรถ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ง่วงอย่าขับ ง่วงจัดต้องรีบจอดพัก เพื่องีบหลับ 10-15 นาที เมื่อตื่นดีแล้วค่อยขับต่อ
ทางด้านนายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บมจ. เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ผู้นำในการให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง กล่าวเสริมว่าเห็นด้วยกับทุนง่วงอย่าขับฯ ซึ่ง KIAT ให้ความคัญต่อความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างมากเพราะทุกอุบัติเหตุ นำมาซึ่งความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะรถบรรทุกที่จะเพิ่มความรุนแรงของอุบัติเหตุ ดังนั้น KIAT จึงได้ติดตั้งระบบเทคโนโลยีป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ Guardian System ซึ่งมีส่วนช่วยให้คนขับได้รับการแจ้งเตือนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบการแจ้งเตือนที่ควบคุมโดยศูนย์บัญชาการส่วนกลาง จะมีขั้นตอนการแจ้งเตือนจากการสื่อสารที่แจ้งเตือนโดยเสียงเตือนจากระบบ การสั่นของที่นั่งคนขับ ไปจนถึงการใช้โทรศัพท์ สั่งการให้คนขับหาที่จอดรถที่ปลอดภัยเพื่อยุติการขับขี่ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ ช่วยให้ KIAT หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดจากการหลับในของคนขับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit