เดอะ ลักชัวรี่ กรุ๊ป บาย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเผยรายงานล่าสุด The Future of Food 2025 มีเนื้อหาครอบคลุมและตอกย้ำให้เห็นถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการกำหนดเทรนด์ด้านอาหารทั่วโลก รายงานฉบับนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกจากเชฟชั้นนำ มิกโซโลจิสต์ และผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้กว่า 30 คนจากทั่วภูมิภาค พร้อมระบุแนวโน้มหลัก 10 ประการที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมด้านอาหาร ที่มีบทบาทในภูมิภาคนี้ต่อวงการอาหารทั่วโลก
เอเชียแปซิฟิกที่เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกถึง 37.8% ในปี 2566 และคาดการณ์มูลค่าตลาดว่าจะเติบโตไปถึง 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2576* ภูมิทัศน์ด้านอาหารที่มีความคึกคักนี้ขับเคลื่อนด้วยทั้งประเพณีและประสบการณ์การรับประทานอาหารในรูปแบบที่แปลกใหม่ ที่เป็นสิ่งดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก
ออริออล มอนทอล กรรมการผู้จัดการฝ่ายลักชัวรี่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "รายงาน The Future of Food 2025 เน้นย้ำถึงบทบาทอันสำคัญของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการกำหนดภูมิทัศน์ด้านอาหารระดับโลก ด้วยอิทธิพลของอาหารที่มีต่อการตัดสินใจในการเดินทาง รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความเป็นเลิศด้านอาหารในทุกแบรนด์ที่อยู่ใน ลักชัวรี่ กรุ๊ป"
ปีเตอร์ ราบา รองประธานกรรมการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) ของ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เสริมว่า "เราไม่ได้เพียงแค่สังเกตแนวโน้มเหล่านี้ แต่เรากำลังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างและมีอิทธิพลต่อแนวโน้มเหล่านี้ เราลงทุนพัฒนาประสบการณ์ด้านอาหาร แนวปฏิบัติที่ยั่งยืน และเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมเพื่อยกระดับบริการต่างๆ ในร้านอาหารและบาร์ของเราในภูมิภาค การเปิดรับและปรับใช้เทรนด์ใหม่ๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารของแขกเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการอาหารระดับโลกอีกด้วย"
เทรนด์หลักๆ ที่กำหนดอนาคตของอาหาร
ทุกส่วนของสัตว์ (nose-to-tail cooking) ไปจนถึงการผลิตจาง (jang) เครื่องปรุงสไตล์เกาหลีแบบดั้งเดิม ซึ่งมีส่วนสำคัญทั้งต่อมรดกทางวัฒนธรรมและการก้าวสู่ความยั่งยืนในระดับโลก
เทรนด์อื่นๆ ที่ระบุในรายงาน
- การปรุงอาหารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Conscious Cuisine):
เห็นได้ว่าความพยายามส่งเสริมความยั่งยืน รวมถึงการทำฟาร์มเชิงฟื้นฟู การจัดการวิกฤตน้ำ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจัดการระบบห่วงโซ่อุปทาน ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอาหารและลดขยะอาหาร
- จากฟาร์มสู่อนาคต (Farm-to-Future):
การบูรณาการแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนตั้งแต่การทำฟาร์มแบบไบโอไดนามิก การรับประทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก ไปจนถึงการใช้วัตถุดิบอัพไซเคิล กำลังขับเคลื่อนการปรับปรุงแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มั่นใจว่าคนรุ่นต่อไปจะยังคงสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่หลากหลายได้
- เครื่องดื่มในยุคใหม่ (Pour it Forward):
นวัตกรรมในเครื่องดื่ม รวมถึงค็อกเทลแบบคราฟต์และตัวเลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ควบคู่ไปกับบรรยากาศกำลังเปลี่ยนนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ในบาร์
- เทคโนโลยีสุดล้ำ แต่สัมผัสใกล้ชิด (High-Tech, High-Touch):
เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหารโดยไม่ลดทอนปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของงานบริการ
- อาหารกระตุ้นประสาทสัมผัสและพื้นที่ที่ยั่งยืน (Sensory Dining and Sustainable Spaces): ร้านอาหารกำลังกลายเป็นสนามแห่งประสบการณ์ที่กระตุ้นหลากหลายประสาทสัมผัสที่ผสานรวม
กับเทคโนโลยี ซึ่งทั้งสนุกสนานและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit