ข่าวดีคนกทม.สิทธิบัตรทอง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 กรุงเทพมหานคร เพิ่มช่องทางบริการหลากหลาย คิกออฟโครงการ "30 บาท รักษาทุกที่" สุขภาพดีเริ่มที่ใกล้บ้าน ในกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องไปต่อคิวยาว รอนานที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่อีกต่อไป ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เพียงแค่ถือบัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้ทันที ผ่าน 7 หน่วยบริการนวัตกรรม ให้บริการสุขภาพวิถีใหม่ ลองมาเช็คกันดูสิว่า คนกทม. สิทธิบัตรทองจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
"คลินิกเวชกรรม" ให้บริการตรวจรักษาโรคแบบผู้ป่วยนอก ครอบคลุมโรค 42 กลุ่ม รวมถึงโรคเรื้อรัง (Chronic) อาทิ โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD), โรคหืด (Asthma), โรคไตเรื้อรัง, โรคกรดไหลย้อน, และโรคปวดหลังและปวดคอ เป็นต้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการที่คลินิกฯ ใกล้บ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่พกบัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น
"คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์" ให้บริการต่าง ๆ เช่น การให้ยาตามแผนการรักษาโดย ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม, บริการพยาบาลพื้นฐาน, ทำแผล, ใส่สายยางให้อาหาร, ใส่สายสวนปัสสาวะ, ดูแลสุขภาพผู้ป่วยที่บ้าน, คัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง พร้อมให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรค นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคเพิ่มเติมดังนี้:
"คลินิกทันตกรรม" ประชาชนสามารถเข้ารับบริการทันตกรรมที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิหรือหน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกแห่งเพียงแสดงบัตรประชาชนทุกครั้งเมื่อเข้ารับบริการ โดยจะได้รับบริการ 5 รายการที่คลินิกทันตกรรม ได้แก่ การขูดหินปูน การอุดฟัน การถอนฟัน การเคลือบหลุมร่องฟัน และการเคลือบฟลูออไรด์ ปีละ 3 ครั้ง เมื่อครบ 3 ครั้ง แล้วหากยังจำเป็นต้องรักษาต่อ สามารถใช้สิทธิได้ที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
"คลินิกเทคนิคการแพทย์" การให้บริการตรวจแล็บครอบคลุม 24 รายการ แบ่งออกเป็น 2 รายการเป็นบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ได้แก่ ตรวจการตั้งครรภ์, ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ สามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ร่วมโครงการได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ส่วนอีก 22 รายการที่เหลือเป็นบริการที่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการมาจากทางโรงพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง โดยประชาชนสามารถยื่นบัตรประชาชนคู่กับใบสั่งตรวจแล็บจากโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับริการฟรีตามหมวดหมู่ดังนี้
"คลินิกการแพทย์แผนไทย" ประชาชนสามารถเข้ารับบริการดังนี้ นวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อการรักษา การบริการนี้รวมถึงการตรวจประเมินและการจัดบริการนวดประคบสมุนไพรโดยแพทย์แผนไทยสำหรับผู้ป่วย 4 กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องใช้การแพทย์แผนไทย ได้แก่ โรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์ โรคสันนิบาต และฟื้นฟูมารดาหลังคลอด เป็นต้น
"คลินิกกายภาพบำบัด" สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพระยะกลางจาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง สมองได้รับบาดเจ็บ กระดูกสะโพกหัก และไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ สามารถเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรอใบส่งตัวจากแพทย์ คลินิกจะจัดการประสานข้อมูลกับโรงพยาบาลเพื่อทำการลงทะเบียนผู้ป่วยและช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้ารับบริการตามนโยบาย
"ร้านยา GPP+ ร้านยาคุณภาพ" สำหรับประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยใน 16 กลุ่มอาการ เช่น เป็นไข้, ไอ, เจ็บคอ, ปวดข้อ, ปวดกล้ามเนื้อ, อาการทางผิวหนัง ผื่น, คัน, ปวดท้อง, รักษาบาดแผล, ท้องเสีย, ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, ปวดฟัน, ท้องผูก, ริดสีดวงทวาร, ปัสสาวะขัด, ปวดประจำเดือน, ตกขาวผิดปกติ, ความผิดปกติของตาและหู สามารถปรึกษาเภสัชกรและรับยาได้ที่ร้านยาคุณภาพใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการ
โดยขั้นตอนการใช้บริการ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาล คลินิกเอกชน หรือร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ สปสช. ค้นหาหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและเลือกจังหวัดกรุงเทพฯ หรือสังเกตตราสัญลักษณ์ใหม่สีแดง '30 บาทรักษาทุกที่' ที่หน้าสถานพยาบาล คลินิกเอกชน หรือร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นยื่นบัตรประชาชนและแจ้งใช้สิทธิบัตรทองเพื่อรับบริการได้ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และลดเวลาการรอคิวนาน
นอกจากนี้ สปสช. ยังได้ขยายบริการเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกและลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ รวมถึงหน่วยบริการนวัตกรรมทั้ง 7 ประเภท ด้วยการเพิ่มบริการแพทย์ทางไกล เจาะเลือดที่บ้าน รถรับส่งผู้ป่วย รถทันตกรรมเคลื่อนที่ และตู้เทเลเมดดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน เป็นต้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. โทร 1330 กด 5
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit