ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง "บมจ.สโตนวัน หรือ STONE" ยืนหนึ่งในธุรกิจผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างและแร่โดโลไมต์ เดินหน้าเสนอขายไอพีโอ 65 ล้านหุ้น ระดมทุนเสริมโอกาสรองรับการเติบโตในอนาคต ใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองหินและแร่ และเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นผู้ประกอบการเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai
นายพงศ์ภัค สุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ STONE ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 65 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.16% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 1 ปี 2567 ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
STONE ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างชนิดหินแกรนิตและชนิดหินปูน ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แร่โดโลไมต์ รวมถึงการให้บริการด้านขนส่งให้แก่ลูกค้าที่ไซต์งาน โดยบริษัทมุ่งเน้นในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และมุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีการศึกษาและวิจัยในการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการบริหาร คุณภาพของสินค้า การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสำคัญ
ด้าน นางสาวกฤษพร ขุนจันทร์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยจุดเด่นของ STONE คือ เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างมากกว่า 27 ปี และยังมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ มีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.17 เท่า และมีส่วนของทุนสูงถึงกว่า 600 ล้านบาท จึงมีศักยภาพที่สูงในการขยายธุรกิจได้อีกในอนาคตภายหลังจากการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ STONE เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตและสนับสนุน STONE เดินหน้าสู่เป้าหมายที่จะขยายแหล่งวัตถุดิบ และการผลิตในอนาคต ต่อยอดธุรกิจหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยการเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองหินที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว หรือการพัฒนาเหมืองหินใหม่ ซึ่งอยู่ในที่ตั้งที่เหมาะสม พร้อมด้วยเจตนารมณ์การทำเหมืองอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการกำหนดมาตรการฟื้นฟูพื้นที่เหมืองระหว่างการทำเหมืองเพื่อให้เติบโตก้าวไปพร้อมกับบริษัท ด้วยการจัดให้มีกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ กองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมือง และกองทุนฟื้นฟูพื้นที่ทำเหมือง ซึ่งบริหารจัดการกองทุนโดยคณะกรรมการมวลชนสัมพันธ์
บริษัทฯ ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก ESG ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ธุรกิจควรเติบโตควบคู่ไปกับการคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งล้วนมีความเชื่อมโยงและเอื้อต่อความยั่งยืนของธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทได้รับรางวัลมาตรฐานสิ่งแวดล้อมจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งรางวัลสถานประกอบการเครือข่ายที่มีการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง (CSR-DPIM Continuous Award) ประเภทเหมืองแร่ และรางวัลมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว (Green Mining Continuous Award) ประเภทเหมืองแร่ และประเภท โรงงานโม่ บด หรือย่อยหิน รวมถึงได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) ตั้งแต่ปี 2556 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนการมุ่งเน้นด้านคุณภาพสินค้า การจัดการสิ่งแวดล้อม และการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย จนได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015, ISO 14001:2015 และ ISO 45001:2018 อย่างต่อเนื่อง
วัตถุประสงค์ในการระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจเหมืองหินและแร่ ในการเข้าซื้อเหมืองใหม่ และลงทุนในเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างความยั่งยืนในอนาคต
โดยผลการดำเนินงานปี 2565 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 279.55 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.71% โดยรายได้หลักของกลุ่มบริษัทมาจากธุรกิจเหมืองหินและแร่โดโลไมต์ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 95% ของรายได้รวม และผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 281.51 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32.70 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 11.62%
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว
"STONE" นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขายไอพีโอ 65 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai ระดมทุนต่อยอดธุรกิจเหมืองหินและแร่ รายแรกของธุรกิจหินอุตสาหกรรม
—
ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง "บมจ....
STONE เปิดบ้านต้อนรับ ก.ล.ต. และ ตลท. เข้าเยี่ยมชมกิจการ ตามแผน IPO
—
นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ S...
"บมจ.สโตนวัน" ยักษ์ใหญ่วงการหินอุตสาหกรรม ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 65 ล้านหุ้น ระดมทุนใน mai ลงทุนธุรกิจเหมืองแร่-เพิ่มศักยภาพธุรกิจ
—
"บริษัท สโตนวัน จำกัด (ม...
บอร์ด MAX ย้ำชัด ลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการอย่างเหมาะสม เตรียมเคาะแผนพัฒนา-สร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุน
—
สืบเนื่องจากกรณีบริษัท หลักทรัพย์ ไอ วี ...