ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในแง่การจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ หันมาใช้ความสามารถของเจเนอเรทีฟเอไอ (GenAI) เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ลูกค้าและพลิกโฉมการดำเนินงานภายในของบริษัท
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค อาศัยความร่วมมืออันยาวนานร่วมกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) โดยนำไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ (Microsoft Azure OpenAI) มาใช้เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมในการสร้างข้อความ โค้ด และเนื้อหาประเภทอื่น ๆ สิ่งนี้ช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กำหนดแนวทางใหม่ให้แก่กระบวนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ย่นระยะเวลางานที่ใช้เวลานาน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากร เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังใช้เจเนอเรทีฟเอไอเพื่อพัฒนานวัตกรรมของตนอีกด้วย
จุดเด่นสำคัญของการใช้เจเนอเรทีฟเอไอโดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกอบด้วย
นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังต้องการผสานรวมกับกิตฮับ โคไพล็อต (Github Copilot) เพื่อปรับปรุงกระบวนการสร้างข้อเสนอและการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเซลส์ โคไพล็อต (Sales Copilot) เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานแนวหน้า
คุณฟิลิปป์ แรมบัค (Philippe Rambach) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเอไอของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและธุรกิจเหล่านี้ว่า "เจเนอเรทีฟเอไอคือตัวเปลี่ยนเกม เรากำลังลงทุนในเทคโนโลยีนี้ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานภายในได้ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เน้นความยั่งยืน"
องค์กรศูนย์กลางเอไอของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวในปี 2564 ก่อนที่เทคโนโลยีเจเนอเรทีฟเอไอจะถูกใช้อย่างแพร่หลาย เครื่องมือใหม่เหล่านี้ไปสู่การสร้างทีมงานที่มุ่งเน้นด้านเจเนอเรทีฟเอไอโดยเฉพาะ เพื่อทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกในการสำรวจหาโอกาสการนำไปใช้งานตั้งแต่เนิ่น ๆ ในขณะเดียวกัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้เสร็จสิ้นการศึกษาโอกาสการใช้งานเจเนอเรทีฟเอไอในทุกฟังก์ชัน และเลือกกรณีการใช้งานและโอกาสการใช้งานที่เป็นไปได้มากกว่า 200 กรณี
การนำเจเนอเรทีฟเอไอมาใช้และการบูรณาการเข้ากับไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ทั้งสองบริษัทต่างมุ่งเน้นที่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพ ส่งเสริมนวัตกรรม และเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณโดมินิก วี (Dominik Wee) รองประธานองค์กร ฝ่ายการผลิตและการเคลื่อนที่ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า "ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ โอเพ่นเอไอ ช่วยให้ชไนเดอร์พัฒนาโซลูชันที่คล่องตัว ปรับขนาดได้ คุ้มค่า และขับเคลื่อนด้วยเอไอ สอดคล้องกับความทะเยอทะยานร่วมกันของเราเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและเป็นดิจิทัล"
กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่สร้างขึ้นบนไมโครซอฟท์ อาซัวร์ นำเสนอโซลูชัน IoT (Internet of Things) บนคลาวด์ยุคอนาคต รวมถึงความสามารถด้านข้อมูลและเอไอขั้นสูงแก่ลูกค้า
ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ทะเยอทะยานและการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวของลูกค้า
เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On
ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน
เราขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยการบูรณาการกระบวนการและเทคโนโลยีพลังงานชั้นนำของโลก ผลิตภัณฑ์ปลายทางและการเชื่อมต่อคลาวด์ การควบคุม ซอฟต์แวร์ และบริการตลอดวงจรชีวิตทั้งหมด ทำให้สามารถจัดการบริษัทแบบบูรณาการสำหรับบ้าน อาคาร ศูนย์ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรม
เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว พร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน
www.se.com
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Life Is On | ติดตามเราได้ทาง: ทวิตเตอร์ | เฟซบุ๊ก | ลิงด์อิน | ยูทูบ | อินสตาแกรม | บล็อก
ค้นพบมุมมองใหม่ล่าสุดที่จะกำหนดนิยามของความยั่งยืน ระบบไฟฟ้า 4.0 ( Electricity 4.0) และระบบอัตโนมัติยุคใหม่ได้ที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค อินไซต์ส ( Schneider Electric Insights )
แฮชแท็ก : #genAI, #AI, #machinelearning, #digitization, #innovation
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit