"บมจ.จี แคปปิตอล หรือ GCAP" เปิดงบไตรมาส 3/2566 โชว์ผลงานกำไรโตต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิ 3.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4.31% แนวโน้มความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มสูงขึ้น ชี้ธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีสดใส เข้าสู่ช่วง ไฮซีซั่นฤดูกาลเก็บเกี่ยว มั่นใจภาพรวมสินเชื่อทั้งปีโตตามแผนไม่น้อยกว่า 20%
นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 3 ปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 3.11 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงมีกำไรเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนภาพรวมความต้องการและราคาผลผลิตทางการเกษตรจากราคาข้าวและข้าวโพดที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ทำให้เกษตรกรมีความต้องการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อรองรับการขยายตัวของพื้นที่เพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะเพิ่มสูงขึ้น
จากแนวโน้มความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ ปล่อยสินเชื่อรวมเป็นจำนวน 96.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.56% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวม 43.14 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 25.39 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงิน 15.01 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในรอบ 9 เดือนของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 15.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และราคาพืชผลการเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรตัดสินใจซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อรองรับฤดูกาลเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่งผลให้มีความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น มั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อปี 2566 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% โดยบริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์การรักษา-ต่อยอดธุรกิจจากฐานลูกค้าเดิม เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ในภาคการเกษตร และการขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น สินเชื่อเช่าซื้อที่ครอบคลุมนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์สินเชื่อที่รัดกุม และบริหารคุณภาพลูกหนี้อย่างเข้มงวด" นายอนุวัตร กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเน้นการเติบโตจากการปล่อยสินเชื่อเครื่องจักรกลการเกษตร โดยจะมียอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มสูงสุดต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีตามช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งนับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ จะช่วยสนับสนุนรายได้ของ GCAP ให้เติบโตแข็งแกร่ง ทั้งนี้ สภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบัน ยังไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท เนื่องจากเงินกู้ที่ทางบริษัทใช้ในการดำเนินธุรกิจ เป็นดอกเบี้ยแบบ Fixed Rate ทำให้บริษัทฯ ยังคงรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของบริษัทฯ ได้
สำหรับความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างสนามบินเกาะเต่า บริษัทฯ ได้เตรียมการจัดตั้งบริษัท เกาะเต่า แอร์ จำกัด เพื่อรับโอนที่ดินเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแบบเพื่อการก่อสร้างและเตรียมยื่นขออนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยต่อไป
ด้านความคืบหน้าของการจัดตั้งธุรกิจหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากสภาวะตลาดเงินและตลาดทุนของไทยในขณะนี้มีความผันผวน บริษัทฯ ได้หารือร่วมกับ AO FUND และมีมติร่วมกันที่จะพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดตั้งธุรกิจหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง
จี แคปปิตอล มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring) จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมทั้งได้รับผลการประเมิน หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ระดับ "BBB" จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย GCAP เป็น 1 ใน 193 บริษัทจดทะเบียนฯ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในปีนี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit