KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง) คาดการณ์ 2 แนวโน้มสำคัญของเศรษฐกิจโลกคือ 1) สามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยอย่างรุนแรงได้ และ 2) วัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกกำลังจะสิ้นสุดลง แต่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่โดยปกติจะไม่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี KBank Private Banking มองเห็นโอกาสในการลงทุน แม้ในภาวะดอกเบี้ยสูง แนะนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดี ผ่านกองทุน K-CHANGE และ K-HIT ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่รับกับเทรนด์ในอนาคต
นางสาวศิริพร สุวรรณการ Senior Managing Director, Financial Advisory Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า "จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่สามารถข้ามผ่านความท้าทายมาได้และน่าจะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยอย่างหนักได้ คาดว่าโลกยังจะอยู่ในภาวะดอกเบี้ยสูงต่อไปอีกระยะ และจะยังสร้างความผันผวนต่อต่อตลาดหุ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงหมายถึงต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจกระทบต่อผลกำไรของผู้ประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูง นักลงทุนจะหันไปฝากเงินหรือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแทนการลงทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี KBank Private Banking ยังเชื่อว่าหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่สร้างการเติบโตให้เงินลงทุนได้ดีในระยะยาว จึงแนะนำให้นักลงทุน Stay Invested หรือลงทุนตลอดเวลา โดยลงทุนในหุ้นกลุ่ม Winners of the New Economy หรือหุ้นกลุ่มผู้ชนะในยุคเศรษฐกิจใหม่ ผ่านการลงทุนใน กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์หุ้นทุน (K-CHANGE) และกองทุนเปิดเค โกลบอล ไฮอิมแพ็คธีมาติกหุ้นทุน (K-HIT) ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรสูงกว่าตลาด สามารถเผชิญกับภาวะดอกเบี้ยสูง รวมทั้งได้ประโยชน์หากดอกเบี้ยปรับลดลงในปีหน้า"
กองทุน K-CHANGE : กองทุน Positive Impacts เปลี่ยนการช่วยเหลือโลกเป็นโอกาสทางการลงทุน
กองทุน K-HIT : ลงทุนก้าวทันโลก โตตามเมกะเทรนด์
นางสาวศิริพร กล่าวในตอนท้ายว่า "ตั้งแต่ต้นปี 2023 ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยส่วนใหญ่มาจากหุ้นเพียง 7 ตัว คือ Apple, Microsoft, Nvidia, Tesla, Meta Platforms, Alphabet และ Amazon ดังนั้น เมื่อความเสี่ยงของเศรษฐกิจถดถอยและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยลดลง จะเป็นโอกาสให้ราคาของหุ้นอื่นๆ เพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ในตลาดหุ้นไทยยังเน้นไปที่พลังงานดั้งเดิม ขณะที่กลุ่ม Information Technology (IT) มีสัดส่วนน้อยมากและส่วนใหญ่เป็นบริษัทรับจ้างผลิตหรือวางระบบ ต่างจากตลาดหุ้นโลกที่มีสัดส่วนของกลุ่ม IT มากกว่าและเป็นบริษัทที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Winner of the New Economy ผ่านกองทุนในต่างประเทศ"
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถรับชมงานสัมมนา " NAVIGATING GROWTH STOCKS AFTER FED'S HIKE" ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=oG19M0JSc1Y หรือ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ของ KBank Private Banking ได้ที่ https://kbank.co/3NrNbw9
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit