"ไถ่หลิง" ทำลายสถิติโลกกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ด้วยการ "เดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ไกลที่สุด"

ความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ในปี 2563 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของไถ่หลิงได้ทำลายสถิติโลกด้วยการเดินทางไกลถึง 656.8 กม. (408.1 ไมล์) ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว สถิติทั้งสองนี้เป็นสัญญาณการเปิดศักราชใหม่สำหรับรูปแบบการขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ซึ่งจะช่วยกำหนดนิยามใหม่ของจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มักใช้สำหรับการเดินทางระยะสั้นในเมืองและขยายขอบเขตของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในขณะที่ไถ่หลิงยังคงพัฒนาเครื่องมือการเดินทางประสิทธิภาพสูง เดินทางได้ไกล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับลูกค้าทั่วโลกต่อไป

คุณเหยา หลี่ (Yao Li) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของไถ่หลิงกล่าวว่า "เทคโนโลยีการเคลื่อนที่ด้วยยานพาหนะไฟฟ้าที่ช่วยให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไถ่หลิงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม EV ได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ทำให้จักรยานไฟฟ้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเดินทางไปกลับระหว่างเมืองอีกต่อไป โดยได้พัฒนาเป็นพาหนะอเนกประสงค์สำหรับการเดินทางในเมืองและการสัญจรเพื่อการพักผ่อนที่หลากหลายมากขึ้น ความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันขอบเขตของเครื่องมือการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้าทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ เป็นการตอบโจทย์และปลดล็อกศักยภาพใหม่ของยานพาหนะสองล้อไฟฟ้า"

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการทำลายสถิติครั้งนี้คือ "ชื่อทู่" (Chitu) ของไถ่หลิง ซึ่งสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับระยะทางการเดินทางด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานรุ่นที่ห้าของไถ่หลิงที่เรียกว่า "จินโต่วหยุน" (Jindouyun) เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อลดการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็รับประกันความเร็ว ความคล่องตัว และความปลอดภัยบนท้องถนนที่เหนือระดับ

ในฐานะส่วนหนึ่งของการทดสอบประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ โจทย์การทำลายสถิติครั้งนี้จึงกำหนดให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องเผชิญกับสภาพถนนและภูมิประเทศที่หลากหลาย รวมถึงเนินเขาลาดชัน ถนนเลียบหน้าผาที่คดเคี้ยวและขรุขระ และเส้นทางที่ซอกแซก ซึ่งชื่อทู่ก็ทำได้สำเร็จอย่างสวยงาม คุณฉิน ไห่ตง (Qin Haidong) ผู้ขับขี่สกู๊ตเตอร์คันดังกล่าว ยกย่องความสำเร็จครั้งนี้ว่าเกิดขึ้นได้ด้วยคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจของชื่อทู่ของไถ่หลิง

ด้วยแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไถ่หลิงขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม EV อย่างรวดเร็ว โดยบริษัทฯ อาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัย ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และนวัตกรรม ปัจจุบันไถ่หลิงถือสิทธิบัตรมากกว่าหนึ่งพันฉบับ รวมถึงมีห้องแล็บที่ได้รับการรับรองจาก CNAS และได้รับรางวัลระดับโลกสำหรับความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี EV

นอกเหนือจากความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาแล้ว ความสำเร็จของไถ่หลิงในด้านการขายยังได้สร้างสถิติใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอีกด้วยโดยทำยอดขายได้หนึ่งล้านคันในเดือนเดียว ความสำเร็จนี้ตอกย้ำประสิทธิภาพของฐานการผลิตทั้งเก้าแห่งของไถ่หลิงทั่วประเทศจีน ซึ่งมีอัตราการผลิตยานยนต์เฉลี่ยต่อวันรวมกันสูงถึงกว่า 33,000 คัน หรือเทียบเท่ากับการผลิตยานยนต์ใหม่ทุก ๆ 2.6 วินาที ส่วนในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อระยะไกล ยอดขายทั่วโลกของไถ่หลิงเติบโตพุ่งทะลุ 21 ล้านคัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดของบริษัทฯ

เกี่ยวกับไถ่หลิง
ไถ่หลิง (TAILG) ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 ที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านนวัตกรรมของจีน บริษัทเป็นผู้บุกเบิกการออกแบบและการผลิตยานพาหนะที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ล้วน ซึ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานใหม่ทั่วโลก การเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดระยะเวลาเกือบสองทศวรรษส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจไปยังกว่า 90 ประเทศ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรมยานพาหนะไฟฟ้า โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งจักรยานไฟฟ้า จักรยานยนต์ไฟฟ้า และรถสามล้อไฟฟ้า นอกจากนี้ ไถ่หลิงยังสามารถออกแบบและผลิตชิ้นส่วนหลักได้อย่างอิสระ เช่น โครงรถและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เป็นต้น

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2241657/1.jpg

• ข่าวเอเชียนเกมส์
• ข่าวรถสกู๊ตเตอร์
• ข่าวแข่งขันกีฬา
• ข่าวสิ่งแวดล้อม
• ข่าวสกู๊ตเตอร์