วันที่สองของการประชุมสุดยอดนักลงทุนฮ่องกง รับมือกับเมกะเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อชาวโลกทั้งแปดพันล้านคน

13 Dec 2023

การประชุมสุดยอดไพรออริตีของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (The Future Investment Initiative PRIORITY Summit) ที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ถือเป็นวันที่สองของการประชุมผู้นำจากภาคการเงินและภาครัฐเพื่อจัดการกับประเด็นระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติ

นักลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย นักนวัตกรรม และผู้นำธุรกิจทั่วโลกจำนวนหนึ่งพันคนจากทั่วเอเชียเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือกันเกี่ยวกับ "เมกะเทรนด์" ซึ่งรวมถึงการผงาดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งของเอเชียในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อไลฟ์สไตล์และการทำงาน และการนำเงินทุนมาใช้ในตลาดและประเทศเศรษฐกิจต่าง ๆ

การประชุมวันที่สองเริ่มต้นด้วยการนำเสนอรายงานเอฟไอไอ ไพรออริตี คอมพาส (Priority Compass Report) โดยคุณริชาร์ด อัตเทียส (Richard Attias) ซีอีโอของสถาบัน FII และคุณรากัน ทารับโซนี (Rakan Tarabzoni) ซีโอโอ รายงานดังกล่าวสำรวจผู้คน 53,000 คนทั่วโลกใน 23 ประเทศ โดยพบว่าความพึงพอใจโดยรวมของผู้คนทั่วโลกต่อชีวิตส่วนตัวลดลงอย่างมากถึง 20% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยผู้ตอบแบบสอบถามรายงานความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ ความเหงา เทคโนโลยี และปัญหาสภาพอากาศ 65% ของคนในประเทศที่สำรวจมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพในแต่ละวัน ส่วนปัญหาความเหงาได้กลายเป็นเรื่องที่คนกังวลกันมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดย 41% ของประชากรในเอเชียรายงานว่ารู้สึกเหงาอยู่บ่อยครั้ง ผู้คน 55% ทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพในราคาย่อมเยา นอกจากนี้ ปัญหาสภาพอากาศยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยผู้คน 78% ทั่วทั้งซีกโลกใต้กังวลเกี่ยวกับมลภาวะ

คุณลอเรนซ์ โมโรนีย์ (Laurence Moroney) หัวหน้าฝ่ายเอไอของกูเกิล (Google) กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ AI จะมีอคติเนื่องจากการพึ่งพาชุดข้อมูลภาษาอังกฤษเป็นหลัก คุณโมโรนีย์ชี้ให้เห็นว่า 60% ของข้อมูลบนเว็บ 2.0 นั้นสร้างขึ้นโดยบอต

นอกจากนี้ คุณโมโรนีย์ยังกล่าวว่า นวัตกรด้าน AI จำเป็นต้องคำนึงถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ ในการพัฒนาโมเดล AI ด้วย โดยอธิบายว่าโมเดล AI เจมีไน (Gemini) ของกูเกิลกำลังทำงานเพื่อรวบรวมและรักษาวัฒนธรรมต่าง ๆ ลงในโมเดลขนาดเล็ก เพื่อให้ผู้คนสามารถโต้ตอบ เรียนรู้ และอนุรักษ์วัฒนธรรมต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ให้คงอยู่ได้

ในการอภิปรายเกี่ยวกับค่าครองชีพ คุณเจอร์รี หลี่ (Jerry Li) ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการอีดับเบิลยูทีพี อาระเบีย แคปิทอล (eWTP Arabia Capital) อธิบายว่า ข้อมูลเปรียบได้กับน้ำมันชนิดใหม่ โดยเป็นทรัพยากรที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและความก้าวหน้า ข้อมูลปริมาณ 120 เซตตาไบต์ (120,000,000,000,000,000,000,000 ไบต์) ที่สร้างขึ้นในปี 2566 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 150% ในปี 2568 เป็น 181 เซตตาไบต์

ในระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน คุณอีดิธ หยาง (Edith Yeung) จากเรซ แคปิทอล (Race Capital) กล่าวว่า AI จะช่วยปลดปล่อยผู้คนจากงานที่ไม่อยากทำ และทำให้พวกเขามีเวลาไปทำกิจกรรมที่มีความหมายมากขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วคนทั่วไปจะใช้เวลาทำงาน 90,000 ชั่วโมงตลอดช่วงชีวิต

คุณเรย์มอนด์ หยวน (Raymond Yuan) ซีอีโอและประธานซีทีเอช กรุ๊ป (CTH Group) ชี้ให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนกับ AI ที่เริ่มปรากฏในสาขาการดูแลสุขภาพ วิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต และบริการทางการเงิน ขนาดตลาดบล็อกเชนทั่วโลกคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 7.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 และตลาดปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลกมีมูลค่า 4.28 แสนล้านดอลลาร์

คณะผู้ร่วมลงทุน (venture capitalist) ชั้นนำของเอเชียได้อภิปรายถึงวิธีที่เอเชียสามารถสร้างอีโคซิสเต็มบริษัทสตาร์ตอัปให้มีชีวิตชีวาและประสบความสำเร็จได้ โดยมีการลงทุนในสตาร์ตอัปเอเชียมูลค่า 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย. 2566

คุณโจชัว ฟิงก์ (Joshua Fink) ผู้ก่อตั้งบริษัท ลูมา กรุ๊ป (Luma Group) กล่าวถึงผลกระทบของการลงทุนในด้านอายุขัยและความชรา โดยอธิบายว่าเวชศาสตร์การฟื้นฟูสภาวะเสื่อม (regenerative medicine) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานวิจัยที่ได้รับรางวัลโนเบลนั้น สามารถปฏิวัติวงการโดยการทำให้เซลล์ย้อนกลับไปสู่สภาวะก่อนเกิดโรค ถือเป็นความหวังในการต่อสู้กับโรคทางพันธุกรรม

เจ้าชายไฟซาล บิน บันดัร บิน สุลต่าน (Faisal bin Bandar bin Sultan) ประธานสหพันธ์อีสปอร์ตส์แห่งซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การเล่นเกมเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 12% ต่อปีตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยภายในสิ้นปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวนเกมเมอร์ถึง 3.75 พันล้านคนทั่วโลก

ในวงเสวนา "ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรม" กับเซอร์มาร์ติน ซอร์เรล (Sir Martin Sorrell) คุณริชาร์ด อัตเทียส กับเซอร์ซอร์เรลได้สำรวจอุตสาหกรรมสื่อทั่วโลกซึ่งมีมูลค่า 9.5 แสนล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าสื่อดิจิทัลจะคิดเป็นสัดส่วน 70% ภายในปี 2568 ส่วนอนาคตของแพลตฟอร์มอย่างติ๊กต๊อก (TikTok) เซอร์ซอร์เรลอธิบายว่า เมื่อมุมมองของคนหนุ่มสาวถูกกำหนดโดยโซเชียลมีเดียรูปแบบใหม่ ๆ ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลจะยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ เขาชี้ให้เห็นว่า โคคา-โคล่า (Coca Cola) กำลังพิจารณาใช้ศักยภาพของ AI เพื่อส่งสารที่ปรับแต่งให้ถูกใจลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า 'Hyper Personalization'

ภายในการประชุมสุดยอด คุณรากัน ทารับโซนี (Rakan Tarabzoni) ซีโอโอของสถาบัน FII นำเสนอเครื่องมือ ESG ที่ครอบคลุมของ FII ซึ่งเปิดตัวเพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ในตลาดเกิดใหม่มีความยั่งยืนมากขึ้น และช่วยให้เม็ดเงินลงทุนไหลไปสู่ผู้นำที่ทำผลงานได้ดีในปัจจุบันและที่มีแววในอนาคต เครื่องมือดังกล่าวซึ่งเปิดให้ทุกคนใช้งานได้แล้วนั้นจะจัดการกับอคติที่ฝังอยู่ในวิธีการ ESG อื่น ๆ และอาจปลดล็อกช่องว่างด้านเงินทุน 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับการลงทุนในตลาดเกิดใหม่

ในเซสชันสุดท้าย ฯพณฯ เชลล์ มังเนอร์ บอนเดวิก (Kjell Magne Bondevik) อดีตนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์และประธานศูนย์เพื่อสันติภาพและสิทธิมนุษยชนแห่งออสโล ได้ประกาศว่า เขาเชื่อมั่นว่าธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับข้อกังวลของคนธรรมดาทั่วไปอย่างจริงจังมากขึ้น จะเป็นธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองในอนาคต

ทั้งนี้ สถาบัน FII ได้ทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) และบริษัทที่ปรึกษาดีลอยท์ (Deloitte) เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากการประชุมสุดยอด โดยการซื้อคาร์บอนเครดิตจากแพลตฟอร์มคอร์ไคลเมต (Core Climate) ของ HKEX ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นร่วมกันว่า ตลาดกับธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายสามารถรับใช้มนุษยชาติในฐานะพลังแห่งความดีได้

ในระหว่างการประชุมสุดยอด บีโอซี อินเตอร์เนชั่นแนล (BOC International) ได้ลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทเอสพีไอซี อินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ (ฮ่องกง) คอมปานี จำกัด (SPIC International Finance (Hong Kong) Company Ltd.) ในด้านการเงินสีเขียว การลงทุนและการออกพันธบัตร และการจัดการเงินทุนทั่วโลก โดยมีคุณพอล เฉิน (Mr. Paul Chan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง เป็นสักขีพยานในการลงนาม

การประชุมสุดยอดดังกล่าวซึ่งร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ได้จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมคอนเน็คท์ฮอลล์แห่งตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX Connect Hall)

การประชุมสุดยอดไพรออริตีของสถาบัน FII ในฮ่องกงสานต่อการสนทนาจากการประชุมซึ่งจัดที่กรุงริยาดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชุมสุดยอดระดับโลกที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งจะจัดขึ้นในปีหน้าที่เมืองไมอามี (กุมภาพันธ์), บราซิล (มิถุนายน) และแอฟริกา (กันยายน)

คุณริชาร์ด อัตเทียส ซีอีโอของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต กล่าวว่า

"ผมอยากจะขอขอบคุณรัฐบาลฮ่องกง ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และผู้คนในเมืองที่สวยงามแห่งนี้ที่ได้ต้อนรับพวกเราในสัปดาห์นี้ด้วยความยินดี ในขณะที่โลกวางแผนเส้นทางข้างหน้า เราต้องคำนึงถึงทุกประเด็นที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นค่าครองชีพ การพัฒนารูปแบบการชำระเงินใหม่ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ หรือความยากจน การลงทุนและนวัตกรรมสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นักลงทุนและนวัตกรที่มาอยู่ที่นี่กันในสัปดาห์นี้ให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง การสนทนาและการทำงานหนักจะดำเนินต่อไปในขณะที่เรามุ่งมั่นเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า"

สื่อมวลชนติดต่อ:
อีเมล: [email protected]

เกี่ยวกับสถาบัน FII

สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII คือมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยมีเครื่องมือการลงทุนและมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ การสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เราดำเนินงานอย่างครอบคลุมในระดับโลก เราส่งเสริมผู้มีไอเดียดี ๆ จากทั่วโลกและเปลี่ยนไอเดียเหล่านั้นให้เป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในสี่ส่วนสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิทยาการหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2296786/Future_Investment_Initiative_Institute_1.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1811613/4445856/FII_Institute_Logo.jpg

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit