สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศรองรับการอนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมแบบเร่งด่วนเพิ่มเติม เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) สามารถเสนอขายกองทุนรวมได้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบันและเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน มกราคม 2567
ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท) ในการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมแบบเร่งด่วน และ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2566 โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศดังกล่าว และมีข้อสังเกตเพิ่มเติมในประเด็นที่อาจกระทบต่อความคล่องตัวและต้นทุนในการเสนอขายกองทุนรวมบางประเภท ก.ล.ต. จึงเสนอปรับปรุงหลักการและร่างประกาศเพิ่มเติม ซึ่งได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการตลาดทุน ในการประชุมครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 แล้วนั้น
ก.ล.ต. จึงออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์อนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมแบบเร่งด่วน เพื่อให้การเสนอขายกองทุนรวมสอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน และเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(1) เพิ่มประเภทกองทุนรวมที่สามารถยื่นคำขอจัดตั้งแบบเร่งด่วนได้ โดยให้ครอบคลุมถึงกองทุนฟีดเดอร์ (กองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมอื่นเพียงกองทุนเดียว) และกองทุนรวมที่มีลักษณะคล้ายกับกองทุนรวมที่ได้รับการอนุมัติแบบปกติจาก ก.ล.ต.*
(2) นำกองทุนรวมตราสารหนี้และกองทุนรวมผสมกลับมายื่นคำขออนุมัติจัดตั้งแบบปกติ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีลักษณะเป็นกองทุน buy & hold** เพื่อให้ ก.ล.ต. ได้พิจารณาการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนรวมได้อย่างเหมาะสม อันจะเป็นการช่วยให้การคุ้มครองผู้ลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
(3) เพิ่มมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่า กองทุนรวมดังกล่าวมีคุณภาพที่เพียงพอ ได้แก่ การเพิ่มคุณสมบัติของ บลจ. ที่สามารถยื่นคำขอ การปรับปรุงระยะเวลาในการอนุมัติคำขอ เพื่อให้ ก.ล.ต. มีระยะเวลาในการคัดกรอง (screening) และการระงับสิทธิในการยื่นคำขอแบบเร่งด่วน กรณีพบข้อบกพร่องสำคัญจากการตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลประเภทและความเสี่ยงของกองทุนรวมแต่ละประเภทให้ครบถ้วนและชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับประกาศ*** ดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) คว้ารางวัล การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน (Sustainability Award) จากโครงการตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย พร้อมเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนในการส่งเสริมการให้ความรู้ด้านการลงทุน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป ผ่านรูปแบบการสื่อสารหลากหลายช่องทาง อาทิ การจัดกิจกรรม Boot camp กับกลุ่มนักศึกษา การพัฒนา Content
บลจ.ทิสโก้ รับรางวัล ด้านการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก...
KTAM เข้ารับรางวัล "การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน" จาก ก.ล.ต. ร่วมแสดงเจตนารมณ์ส่งเสริมความรู้ด้านการลงทุนแก่คนไทย
—
นางชวินดา หาญรัตนกูล (ซ้าย) กรรมการ...
XSpring คว้ารางวัล "การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน" ในโครงการ "ตลาดทุนร่วมใจ ส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน" 2 ปีซ้อน
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปร...
ก.ล.ต. และ AIMC ร่วมหารือนโยบายพัฒนาธุรกิจจัดการลงทุนให้เป็นกลไกส่งเสริมการออมระยะยาว - การลงทุนอย่างยั่งยืน
—
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลั...
ก.ล.ต. จับมือบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จัดทำโครงการ "supervisory stress test" ประจำปี 2566
—
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลา...
ก.ล.ต. ร่วม Meta และ Facebook ประเทศไทย เสริมสร้างการปกป้องแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา
—
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศ...