พบกับ Nothing Phone (2)

Phone (2) พัฒนาขึ้นด้วยความใส่ใจและความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด

พบกับ Nothing Phone (2)

"เปิดตัว Nothing OS 2.0 ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ มาพร้อมกับ Glyph Interface แบบใหม่ กล้องหลังคู่ 50 MP + กล้องหน้า 32 MP จอแสดงผล OLED แบบยืดหยุ่นขนาด 6.7 นิ้ว (LTPO) RAM 12 GB + Snapdragon(R) 8+ Gen 1 และฝาหลังที่ออกแบบให้มีความโค้งขึ้นมาเล็กน้อย"

Nothing ประกาศเปิดตัว Phone (2) ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ 2 ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งออกแบบมาสำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างชาญฉลาดมากขึ้นโดย Phone (2) นำเสนอ Glyph Interface ใหม่ที่ด้านหลัง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดการโต้ตอบบนหน้าจอโดยการลดเวลาเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Nothing OS 2.0 ที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งมาจากยูทิลิตี้และออกแบบมาเพื่อลดสิ่งรบกวน และยังมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นในเวลาเดียวกัน และยังคงรวบรวมความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nothing Phone (2) ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon(R) 8+ Gen 1 ระดับแนวหน้า และยังมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยกล้องคู่ 50MP อันทรงพลังพร้อมอัลกอริทึมขั้นสูงสำหรับการถ่ายภาพที่สมจริงและจอแสดงผล LTPO OLED ขนาด 6.7 นิ้วที่สวยงามน่าทึ่ง

Carl Pei ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Nothing กล่าวว่า "เรานำเสนอฟีเจอร์ชั้นยอดในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างตั้งใจมากขึ้น ผ่านนวัตกรรมการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์" และยังกล่าวอีกว่า "สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือสำคัญในชีวิตของเรา แต่มันกลายเป็นสิ่งรบกวนสมาธิมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราอยู่กับปัจจุบันน้อยลงและมีความคิดสร้างสรรค์น้อยลง"

  • การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

Nothing ออกแบบ Phone (2) อย่างพิถีพิถันด้วยความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมส่งมอบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นแรก Phone (1) เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ Phone (2) ขอนำเสนอความงดงามที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำโดยวิธีการออกแบบที่สอดคล้องและสมมาตร และคำนึงถึงรูปทรง สี ตำแหน่ง และพื้นผิวของแต่ละส่วนประกอบอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การใช้งานจริงตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยเฟรมกลางที่บางลง 1 มม. และกระจกด้านหลังที่นูนขึ้น

  • Glyph Interface ใหม่

หลักสำคัญของการออกแบบสมาร์ทโฟน Nothing คือ Glyph Interface ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยลดการโต้ตอบบนหน้าจอให้น้อยลง ผู้ใช้สามารถกำหนดลำดับแสงและเสียงส่วนบุคคลให้กับผู้ติดต่อแต่ละคนและแต่ละแอปได้ เพื่อรับรู้การแจ้งเตือนที่สำคัญ

Nothing ปรับปรุง Glyph Interface อันเป็นเอกลักษณ์บน Phone (2) ด้วยการเพิ่มจำนวนส่วน LED เพื่อให้สามารถปรับแต่งและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ตรวจสอบระดับเสียง และจับเวลา ขณะที่การแจ้งเตือน Essential Glyph ช่วยให้ผู้ใช้ไม่พลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากผู้ติดต่อหรือแอปที่เลือกไว้ ไฟ LED ในส่วนด้านขวาบนจะสว่างอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับการรับรู้

Glyph Composer ใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์ของตนเองได้มากขึ้นด้วยการสร้าง Glyph Ringtones ที่ไม่ซ้ำใคร

  • Nothing OS 2.0

Nothing OS ที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะลดสิ่งรบกวนและส่งเสริมการใช้สมาร์ทโฟนด้วยความตั้งใจ พร้อมมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งมีรากฐานมาจากยูทิลิตี้ ในขณะที่ยังคงความสวยงามด้านการออกแบบของ Nothing ไว้ด้วยกัน

Nothing OS 2.0 ช่วยให้ผู้ใช้มีความตั้งใจมากขึ้นโดยการลบสัญลักษณ์และปรับให้มีความดึงดูดมากขึ้น ด้วยเลย์เอาต์ขาวดำใหม่และการลบป้ายกำกับแอป Nothing ออกแบบหน้าจอหลักและหน้าจอล็อกใหม่ด้วยวิดเจ็ต ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเข้าถึงฟังก์ชันหลักได้โดยไม่ต้องเปิดแอป Nothing OS 2.0 ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการออกแบบกริด ขนาดวิดเจ็ต และธีมสีได้ พร้อมมีเลย์เอาต์โฟลเดอร์และภาพปกใหม่ให้เลือกอีกมากมาย

Nothing มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น โดยได้ทำการปรับซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งทำให้ความเร็วในการเปิดแอปบน Phone (2) เร็วขึ้นถึงสองเท่าจาก Phone (1) สามารถปรับแต่งการเปลี่ยนภาพและภาพเคลื่อนไหวได้กว่า 500 รายการ

  • การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลัง

Phone (2) มอบประสบการณ์กล้องสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่สุด ณ ตอนนี้ ด้วยกล้องหน้า 32MP และระบบกล้องหลังคู่ที่มีเซ็นเซอร์ 50MP ขั้นสูงสองตัว พร้อมเซ็นเซอร์หลักที่ได้รับการอัปเกรดเป็น Sony IMX890

Phone (2) มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลกล้องมากกว่า Phone (1) รุ่นก่อนถึง 4,000 เท่า เพราะมาพร้อมกับตัวประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) 18 บิตขั้นสูง สิ่งนี้ช่วยให้ Phone (2) ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมได้ล้ำสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอมีความแม่นยำในระดับที่เหลือเชื่อ และด้วยการบันทึกข้อมูลที่เพิ่มขึ้นสามเท่า ฟังก์ชัน HDR ขั้นสูงจะใช้เฟรมแปดเฟรมโดยมีระดับแสงที่แตกต่างกันภายในโดเมน RAW ของเซ็นเซอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถรักษารายละเอียดที่ซับซ้อนไว้ได้มากมายในแต่ละเฟรม ท้ายที่สุดจะรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพที่ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนจริงที่สุด และ Motion Capture 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ขั้นสูง จะช่วยอำนวยความสะดวกในการระบุวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และรับประกันการโฟกัสที่แม่นยำในรายละเอียดที่สำคัญทั้งหมด เพื่อประสบการณ์การใช้งานกล้องที่ดียิ่งขึ้น

Phone (2) ยกระดับความสามารถในการบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียด 4K อันน่าทึ่งที่ 60fps ในกล้องหลังหลัก ประสบการณ์นี้ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยโหมดแอ็คชั่น เพื่อให้มั่นใจถึงการถ่ายทำที่ราบรื่นแม้ในขณะเดินทาง ผู้ใช้สามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่ราบรื่นไร้ที่ติ เพราะมี EIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์) และ OIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล) ในตัว นอกจากนี้กล้องด้านหน้ายังช่วยให้สามารถบันทึกภาพตัวเองได้อย่างน่าหลงใหลด้วยความละเอียด 1080P ที่ 60fps

  • ประสิทธิภาพระดับพรีเมียม

Phone (2) มอบประสบการณ์เหนือระดับ อัดแน่นด้วย Snapdragon(R) 8+ Gen 1 และแบตเตอรี่ 4700 mAH Phone (2) พร้อมมอบประสิทธิภาพที่รวดเร็วและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานแก่ผู้ใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเขา ผู้ใช้สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วและสามารถชาร์จไร้สายได้ โดยให้พลังงานถึง 50% ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาทีสำหรับการชาร์จแบบใช้สาย

Phone (2) นำเสนอจอแสดงผลสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่สุดที่ไม่มีอะไรเทียบได้ในปัจจุบัน นำเสนอจอแสดงผล LTPO OLED แบบไร้ขอบขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชที่ปรับได้ตั้งแต่ 120hz ถึง 1z เพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้พลังงานที่เหมาะสมและประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่กระทบกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่

  • ความยั่งยืน

Phone (2) นับเป็นการสะสมและรวบรวมความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนของ Nothing ที่กำลังดำเนินอยู่ แม้จะมีคุณสมบัติและส่วนประกอบขั้นสูงกว่ารุ่นก่อน แต่ Phone (2) ก็สามารถลด CO2 ลงได้ 5 กก. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Nothing ที่มีต่อความยั่งยืนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความคิดริเริ่มที่สำคัญดังต่อไปนี้มีส่วนทำให้เกิดความสำเร็จในครั้งนี้

  • กรอบตรงกลาง ปุ่ม และปลายถาดซิมทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
    • 80% ของชิ้นส่วนพลาสติกทำจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ
    • ดีบุกรีไซเคิล 100% ใช้กับแผงวงจร 9 แผ่น
    • ฟอยล์ทองแดงรีไซเคิล 100% ใช้สำหรับแผงวงจรหลัก
    • เหล็กรีไซเคิลกว่า 90% ใช้สำหรับชิ้นส่วนปั๊มเหล็กทั้งหมด 28 ชิ้น
    • ไม่มีของเสียจากกระบวนการประกอบ
    • พลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานประกอบและโรงงานผลิตอะลูมิเนียมรีไซเคิล
    • ได้รับการรับรอง FSC MIX (The Forest Stewardship Council) บรรจุภัณฑ์ปลอดพลาสติกที่มีเส้นใยรีไซเคิลมากกว่า 60%
  • ราคาและการจัดจำหน่าย

    • Phone (2) มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีเทาเข้ม โดยมีสองรุ่นให้เลือก: 12GB/256GB (24,990THB) และ 12GB/512GB (27,990THB)
    • ผู้ใช้งานในประเทศไทยจะมีโอกาสเป็นกลุ่มคนแรกในโลกที่จะได้ซื้อ Phone (2) รวมทั้งได้รับสิทธิพิเศษและข้อเสนอพิเศษก่อนใครที่ Carnival Siam Square เวลา 11:00 น. ในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม
    • สามารถสั่งซื้อ Phone (2) ล่วงหน้า (พรีออเดอร์) ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคมที่ dotlife Website และ Shopee Nothing Official Store.
    • Phone (2) จะวางขายทั่วประเทศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคมที่ร้าน dotlife

รายการข้อกำหนดและคุณลักษณะทั้งหมดสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ Nothing.tech และหากต้องการติดตามข้อมูลล่าสุดทั้งหมด โปรดติดตาม Nothing บน Instagram, TikTok และ Twitter

  • เกี่ยวกับ Nothing

Nothing จะทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุกอีกครั้ง ก่อตั้งในปี 2563 Phone (1) สมาร์ทโฟนรุ่นแรกได้รับรางวัล "สิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2565" อันทรงเกียรติจากนิตยสาร Time บริษัทในลอนดอนกำลังสร้างระบบนิเวศทางเลือกของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่และผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยและการมีนวัตกรรมส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ของ Nothing ได้รับการพัฒนาโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับชุมชนของพวกเขา ซึ่งรวมถึงนักลงทุนเอกชนกว่า 8,000 ราย และได้รับการประดิษฐ์ขึ้นด้วยความยั่งยืน

Phone (2) assets

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2151878/Nothing_Phone.jpg
คำบรรยายภาพ - Phone (2) พัฒนาขึ้นด้วยความใส่ใจและความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด


ข่าวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่น+สมาร์ทโฟนวันนี้

POCO เปิดตัว POCO F7 Series สมาร์ทโฟนทรงพลัง ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม พร้อมประกาศราคาจำหน่ายพิเศษในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 14,490 บาท

POCO เปิดตัว POCO F7 Series ซึ่งประกอบไปด้วย POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความเป็นเลิศรอบด้านและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่มอบความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุดและยังเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้นในราคาที่เป็นมิตร ทั้งนี้ POCO Thailand ยังได้ประกาศราคาจำหน่ายและโปรโมชันพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2568 ถึง 9 เมษายน 2568 โดย POCO F7 Ultra วางจำหน่ายในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 20,490 บาท (จากราคาปกติ 21,990 บาท) และ

เมื่อเร็วๆ นี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ได้เปิ... Xiaomi 15 สมาร์ทโฟนเรือธงในขนาดกะทัดรัดสำหรับคนรักการถ่ายภาพ — เมื่อเร็วๆ นี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ได้เปิดตัว Xiaomi 15 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ซึ่งป...

ชิป SoC เรือธง Dimensity 9400 ของ MediaTek มอบขีดสุดแห่งประสิทธิภาพ สำหรับการใช้งาน AI ที่ล้ำที่สุด

ชิปเซ็ตใหม่ผสานการออกแบบ All Big Core เจนสองเข้ากับความสามารถชั้นนำในวงการทั้ง AI คอมพิวติ้ง เกมมิ่ง และการถ่ายภาพ MediaTek เปิดตัว Dimensity 9400 ชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่ปรับแต่งมาเพื่อการ...

เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธ... เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ 'Xiaomi 13T Series co-engineered with Leica' — เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ 'Xiao...

Phone (2) พัฒนาขึ้นด้วยความใส่ใจและความมุ... พบกับ Nothing Phone (2) — Phone (2) พัฒนาขึ้นด้วยความใส่ใจและความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด "เปิดตัว Nothing OS 2.0 ที่ได้รับการออก...