บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) 14 ก.ย. นี้ ด้านผู้บริหาร "ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว" แม่ทัพใหญ่ มั่นใจปัจจัยพื้นฐานแกร่ง ชูจุดเด่นเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทยไป 90 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ "เสกสรรค์ ธโนปจัย" ซีอีโอ ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน มั่นใจ เป็นหุ้นน้องใหม่ไอพีโอที่สร้างผลตอบแทนที่ดี ตอกย้ำความสำเร็จในธุรกิจมาร่วม 15 ปี สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตที่ดีเยี่ยม ด้าน "ชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม" ซีอีโอ UOBKH ในฐานะ Joint Lead Underwriters ชี้ฐานทุนแกร่งพร้อมขยายธุรกิจได้ดี ส่วน "ออมสิน ศิริ" ซีอีโอ BYD ย้ำ ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก สนับสนุนให้ COCOCO เติบโตแข็งแกร่ง และยั่งยืน
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ผู้ผลิต-จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับหุ้น COCOCO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันพรุ่งนี้ (14 กันยายน 2566) เป็นวันแรกในหมวดธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโต และฐานการเงินแข็งแกร่ง
สำหรับจุดเด่นของ COCOCO คือ การเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว ที่วางจำหน่ายใน 90 ประเทศทั่วโลก ที่มีโรงงานอยู่ใน จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นทำเลทองของมะพร้าวน้ำหอมที่อร่อยและมีชื่อเสียงอันดับ 1 ของประเทศไทย มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,130.45 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 859.20 ล้านบาท และในงวดไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 130.99 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 66.90 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 6 เดือน มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,992.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 197.89 ล้านบาท
นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน COCOCO กล่าวว่า มั่นใจว่า COCOCO จะเป็นหุ้นน้องใหม่ใน SET ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ซึ่งสะท้อนมายังอัตรากำไรสุทธิ 3 ปีย้อนหลัง สูงขึ้นทุกปี โดยปี 2563 อยู่ที่ 2.29% ปี 2564 อยู่ที่ 6.95% ปี 2565 อยู่ที่ 8.94% ไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 7.79% และในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 11.59% สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้จุดเด่น COCOCO ที่ทำเลที่ตั้งโรงงานอยู่ใน จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมที่มีชื่อเสียงสูงสุดของประเทศไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ COCOCO มีคุณภาพสูง และได้รับความนิยมจากประชาชนผู้บริโภคกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และมีศักยภาพสูงในการขยายตลาดเพิ่มขึ้นในอนาคต ล่าสุดกำลังอยู่ในระหว่างลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมะพร้าว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriters) บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO เปิดเผยว่า COCOCO เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวเพื่อการส่งออก การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพฐานทุนให้แข็งแกร่ง และต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีขึ้น รวมทั้งเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมาก ทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ มั่นใจว่า COCOCO จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เห็นได้จากการกระจายหุ้น IPO จำนวน 370 ล้านหุ้น ราคา IPO ที่ 5.50 บาท มีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปให้ความสนใจเข้าจองซื้อหุ้นจำนวนมาก เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของ COCOCO และมองเห็นศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะความสามารถในการกระจายสินค้าไปได้กว่า 90 ประเทศทั่วโลก และจะขยายต่อไปได้อีกในอนาคตอันใกล้นี้
นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม COCOCO กล่าวว่า การเข้าระดมทุนใน SET ของ COCOCO จะทำให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายในด้าน 1. ใช้ขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว (COCOCO) โดยซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อผลิตน้ำมะพร้าว เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำมะพร้าวจากประมาณ 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว 2. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นของสุนัขและแมว 3. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในผลิตภัณฑ์ไอศกรีม 4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย และ 5. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ (Working Capital) สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
โดยเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดี และสนับสนุนให้ COCOCO ก้าวสู่การเป็นบริษัทฯ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก ที่มีการเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit