'เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท' ในเครือ 'สิงห์ เอสเตท' เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่ 5.00% ต่อปี พร้อมเสนอขายประชาชนทั่วไป 16-18 ตุลาคมนี้ ผ่าน 3 สถาบันการเงินชั้นนำ ชูอันดับเครดิตระดับ 'ลงทุน' มั่นใจกระแสตอบรับดี หลังปัจจัยหนุนธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจน
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ "SHR" บริษัทในเครือ "สิงห์ เอสเตท" เคาะอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่ 5.00% ต่อปี มั่นใจกระแสตอบรับดี หลังปัจจัยหนุนธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการ "วีซ่า-ฟรี" ที่จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยในช่วงไฮซีซั่น ขณะที่หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ "ลงทุน" ช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ 'SHR' ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล กำหนดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ที่ระดับ 5.00% ต่อปี โดยจะเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก ในระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 3 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
หุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "BBB" ซึ่งเป็นระดับ "ลงทุน" (Investment grade) ในขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ "BBB+" แนวโน้ม "คงที่" (Stable) ซึ่งได้รับการจัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 โดยอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงคุณภาพที่ดีของกลุ่มสินทรัพย์โรงแรมของบริษัทฯ ที่มีความหลากหลายในเชิงภูมิศาสตร์ และการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า หนี้สินทางการเงินของบริษัทฯ จะลดลง เนื่องจากผลการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จากอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง
นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่กลยุทธ์ในการผลักดันธุรกิจของ SHR ทำให้โรงแรมในกลุ่มสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ธุรกิจท่องเที่ยวยังได้รับการสนับสนุนของรัฐบาล ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการ "วีซ่า-ฟรี" ให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เป็นระยะเวลา 5 เดือน และอาจจะขยายไปยังนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ทำให้ธุรกิจโรงแรมสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสนับสนุนให้ผู้ลงทุนมั่นใจให้การตอบรับหุ้นกู้ SHR เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับที่เคยให้การตอบรับหุ้นกู้ของ "สิงห์ เอสเตท"
ทั้งนี้ บมจ. เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เป็นบริษัทในเครือของ สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโรงแรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีผลการดำเนินงานโดดเด่นในปีที่ผ่านมา โดยมีพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมและรีสอร์ทที่มีมาตรฐานระดับโลกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารและลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทคุณภาพสูงในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก โดย SHR ได้พัฒนาไลฟ์สไตล์แบรนด์ SAii (ทราย) ของตนเองขึ้นมาในประเทศไทยและมัลดีฟส์ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแขกผู้เข้าพักในด้านการส่งมอบประสบการณ์และการบริการอันยอดเยี่ยม ด้วยบุคลิก แบรนด์ที่สนุกสนาน ภายใต้แนวคิดการผสานจุดแข็งที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย อาทิ ความมีน้ำใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเป็นมิตร ควบคู่ไปกับความคิดสร้างสรรค์ และกลิ่นอายของจุดหมายปลายทาง โดยนอกจากแบรนด์ SAii แล้ว SHR ยังเป็นพันธมิตรกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในตลาดของตน โดยในปี 2566 บริษัทฯ มีโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง จำนวน 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วโลก
"ในปีนี้เรามีเป้าหมายขับเคลื่อนรายได้ให้สูงกว่า 10,000 ล้านบาท และวางเป้าหมายอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอย่างต่ำที่ 70% ควบคู่กับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน เรายังคงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเรา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHR กล่าว
ด้าน นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท หรือ 'S' เปิดเผยว่า SHR เป็นบริษัทในเครือ ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้มั่นใจว่าหุ้นกู้ SHR ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกจะได้รับการตอบรับอย่างดี
ขณะที่ สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นกู้ SHR เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยระดับ 5.00% ต่อปี อายุหุ้นกู้ที่เหมาะสม ภายใต้อันดับความน่าเชื่อถือระดับ "ลงทุน" รวมถึงการเป็นบริษัทในเครือ บมจ.สิงห์ เอสเตท ที่มีความแข็งแกร่งและมั่นคง ขณะเดียวกัน SHR ยังอยู่ในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอีกด้วย
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ "SHR" สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
*ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit