บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ หรือ (SFLEX) เปิดงบ Q2/66 กวาดกำไรสุทธิ 50.4 ลบ. พุ่งกระฉูด 1356% ส่วนงวด 6 เดือนแรก กำไรแตะ 91.1 ลบ. มากกว่าเกือบเท่าตัวของกำไรทั้งปี 65 เหตุบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ-เพิ่มประสิทธิการผลิตได้อย่างดีเยี่ยม ฟากซีอีโอ "ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี" เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง รุกขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะและมูลค่าสูง เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืนที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable) พร้อมยืนเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้จาก Organic growth อยู่ที่ประมาณ 1,800 - 1,850 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 468.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% เทียบกับ 412.0 ล้านบาท ของปีก่อน โดยมีกำไรขั้นต้น 121.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรขั้นต้น 50.6 ล้านบาท หากพิจารณาในส่วนของกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 50.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1,356% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.5 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 2/2566 สามารถสร้างผลกำไรเติบโตต่อเนื่องจากการไตรมาสแรกที่ทำได้ 40.7 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น QoQ ประมาณ 23.7% และเติบโตโดดเด่นเพิ่มขึ้น YoY ถึง 1,356% ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสร้างโมเดลการบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างเป็นระบบกับ suppliers ทั้งในและต่างประเทศ และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรในการผลิต รวมถึงการมุ่งเน้นกลยุทธ์การขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง"
ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี บริษัทฯ มีรายได้รวม 945.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 829.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 91.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 340.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนมากกว่าของกำไรสุทธิของทั้งปี 2565
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้ของธุรกิจหลักแบบ Organic growth อยู่ที่ประมาณ 1,800 - 1,850 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566 จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืนให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าแผนการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัท Starprint Vietnam Joint Stock Company (SPV) ประเทศเวียดนาม กับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่รายหนึ่งจะเป็นการยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit