วันที่ 17 สิงหาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมคณะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระโครงการความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา และตรวจเยี่ยมโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช โดยมี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสระบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมต้อนรับ ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ สถานีรถไฟหินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี และพยายามผลักดันให้เกิดโครงการต่างๆ อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟความเร็วเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟทางคู่ เป็นต้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางที่ รวดเร็ว และปลอดภัยสำหรับประชาชน รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ พัฒนาภูมิภาค โดยเฉพาะหัวเมืองหลักตามแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะพัฒนาเป็นเมืองศูนย์กลางของภูมิภาค และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไป ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานได้มีนโยบายสำคัญในการเตรียมกำลังแรงงานให้เพียงพอและสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ มีทักษะฝีมือ มีงานทำ มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศอีกด้วย
ในส่วนของสถานการณ์ด้านแรงงานของจังหวัดสระบุรี ปัจจุบันมีประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไปจำนวน 354,572 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 428,370 คน มีงานทำ 417,998 คน ในภาคเกษตรกรรม 59,191 คน นอกภาคเกษตรกรรม 358,807 คน ผู้ว่างงาน 9,909 คน ผู้รอฤดูกาล463 คน ผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน 226,202 คน แรงงานนอกระบบ 158,735 คน แรงงานต่างด้าว 24,479 คน สถานประกอบการที่มีการจ้างแรงงานต่างด้าว 3,647 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 349,833 คน สถานประกอบการ 5,068 แห่ง