ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปี 2566 มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ หรือ VONB อยู่ที่ 3,289 ล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ เพิ่มเป็น 57.6%

ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปี ผลประกอบการ566 มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ หรือ VONB อยู่ที่ 3,ผลประกอบการ89 ล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ เพิ่มเป็น 57.6% เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสสองเพิ่มขึ้นถึง ผลประกอบการ4.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ ผลประกอบการ,5การดำเนินการผลประกอบการ ล้านบาท มาจากการเติบโตของกำไรจากการรับประกันภัย ส่งผลให้มีกำไรในช่วง 6 เดือนแรกสูงถึง 5,64ไทยประกันชีวิต ล้านบาท

ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการ 6 เดือนแรก ปี 2566 มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ หรือ VONB อยู่ที่ 3,289 ล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ เพิ่มเป็น 57.6%

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (Value of New Business : VONB) อยู่ที่ 3,289 ล้านบาท โดยอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) เพิ่มขึ้นถึง 6.1 จุด หรือมีอัตราสูงถึง 57.6% โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (Annual Premium Equivalent : APE) จำนวน 5,173 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวม 39,345 ล้านบาท

บริษัทฯ ยังคงรักษามูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ได้อย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ากำไรสูง ผ่านทางช่องทางการขายหลักอย่างช่องทางตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งบริษัทฯ มีจำนวนตัวแทนฯ ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการขายของตัวแทนฯ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการขาย เช่น แอปพลิเคชัน MDA 4 PLUS

นอกจากนี้ ในช่องทางพันธมิตร บริษัทฯ ยังคงมีพันธมิตรที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม ซึ่งบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า สำหรับขายผ่านช่องทางพันธมิตร ส่งผลให้มีอัตรากำไรที่ดีขึ้น

โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตของกำไรสุทธิเป็นผลจากกำไรจากการรับประกันภัยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้กำไรในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 5,640 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ สามารถทำกำไรจากการรับประกันภัยเติบโตถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรจากการลงทุนปรับตัวลดลง เนื่องจากการลดลงของกำไรจากการขายเงินลงทุนและการเปลี่ยนแปลงของมูลค่ายุติธรรม ซึ่งเป็นไปตามผลตอบแทนของตลาดและมุมมองในการเคลื่อนไหวของตลาดทุนในปี 2565

นายไชยกล่าวว่า ถึงแม้ว่าบริษัทฯจะมีการบันทึกผลขาดทุนจากขายเงินลงทุนในหุ้น STARK ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯยังสามารถทำกำไรจากเงินลงทุนสุทธิในระหว่างไตรมาสเป็นจำนวน 470 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.7% จากไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มูลค่าพื้นฐานของกิจการ หรือ Embedded Value (EV) ของบริษัทฯ มีมูลค่า 152,990 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% จาก 145,170 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม ปี 2566 แม้ว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นรวมกว่า 3,400 ล้านบาท แต่ EV ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรจากการดำเนินงานบนพื้นฐานของมูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน

ในด้านการลงทุน บริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 สินทรัพย์ลงทุนมากกว่า 80% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด เป็นรูปแบบหนี้สินที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับกลุ่มน่าลงทุน

ขณะเดียวกันสถานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง โดยในปี 2566 สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ได้ประกาศอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของไทยประกันชีวิตที่ A- และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ที่ AAA(tha) โดยมีมุมมองที่มีเสถียรภาพ

สำหรับอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ 398.2% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้อยู่ที่ 140% ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน

ไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และนำหลักการ ESG ผนวกเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจในหลากหลายมิติ เช่น มิติสิ่งแวดล้อม มิติทางสังคม มิติทางเศรษฐกิจ และธรรมมาภิบาล บริษัทฯ ได้สนับสนุนโครงการ Green Building และริเริ่มหลากหลายโครงการเพื่อสนับสนุนและยกระดับคุณภาพชีวตของคนในสังคมให้ดีขึ้น ทำให้ในเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา สถาบันไทยพัฒน์ทำการประเมินบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG โดยคัดเลือกจากกว่า 800 บริษัท/กองทุน/ทรัสต์เพื่อการลงทุน ซึ่งไทยประกันชีวิตเป็น 1 ใน 15 บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำเนียบ ESG 2023 Emerging และ ESG100


ข่าวไทยประกันชีวิต+การดำเนินการวันนี้

Krungsri Auto bags 5 global awards from THE WORK 2024 from commercial films that capture engaging customer insights

เมืองไทยประกันชีวิต และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จัดทำถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 2,000 ชุด บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม การดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจในการสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 'Krungsri Auto', a leader in automotive finance under Bank of Ayudhya PCL., continues to push forward to become the No.1 choice for automobile users by deeply analyzing customer

นางสาวฐิติมา เลี้ยงพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่า... ไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล Thailand Social Awards ครั้งที่ 13 — นางสาวฐิติมา เลี้ยงพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ... เมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม "Exclusive One Day Trip" ฟินมู เต็มอิ่ม กับ อ.คฑา ชินบัญชร — บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยเมืองไทยสไมล์คลับ ร่...

ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการปี 2567 โชว์ก... ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการปี 2567 โชว์กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 11,682 ล้านบาท — ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการปี 2567 โชว์กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถ...