"ทัวร์สำรวจเส้นทางสายไหมแห่งปักกิ่ง" ประจำปี 2566 เปิดฉากขึ้นแล้ว
"ทัวร์สำรวจเส้นทางสายไหมแห่งปักกิ่ง" (Silk Road Rediscovery Tour of Beijing) ประจำปี 2566 ได้เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 สิงหาคม ณ ริมฝั่งแม่น้ำเหลียงหม่าในกรุงปักกิ่ง งานนี้มีสำนักสารสนเทศของเทศบาลกรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ และจัดโดยซีอาร์ไอ ออนไลน์ (CRI Online) ในเครือบริษัท ไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group) โดยมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์จากนานาชาติ เช่น เซอร์เบีย โรมาเนีย ออสเตรีย ไทย กัมพูชา ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาซัคสถาน เติร์กเมนิสถาน ซิมบับเว ฯลฯ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง งานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม พร้อมกับแสดงให้โลกเห็นว่าปักกิ่งพัฒนาควบคู่ไปกับเส้นทางสู่ความทันสมัยของจีนอย่างไร
กิจกรรม "ทัวร์สำรวจเส้นทางสายไหมแห่งปักกิ่ง" เป็นหนึ่งในแผนงานของกรุงปักกิ่งภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) โดยนับตั้งแต่ปี 2559 กิจกรรมนี้ดึงดูดอินฟลูเอนเซอร์จากนานาชาติได้ถึง 111 คน จาก 49 ประเทศภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง กิจกรรมนี้จึงเป็นช่องทางสำคัญในการอวดภาพลักษณ์ของปักกิ่ง ทั้งความเปิดกว้าง การไม่แบ่งแยก ความร่วมมือ การพัฒนา และการมีชะตาร่วมกัน ตลอดจนเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรมต่าง ๆ
คุณโยอาน บูดูรา (Ioan Budura) อดีตบรรณาธิการบริหารฝ่ายข่าววัฒนธรรม บริษัทวิทยุโรมาเนีย (Radio Romania) และผู้รอบรู้อารยธรรมจีนคนดัง ได้กล่าวในนามของอินฟลูเอนเซอร์ชาวต่างชาติว่า กิจกรรมนี้จะช่วยให้เขาได้รับข้อมูลและแนวคิดมากมายเพื่อนำไปใช้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจีน และเชื่อว่าการทัวร์ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
สำหรับปีนี้ "ทัวร์สำรวจเส้นทางสายไหมแห่งปักกิ่ง" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-26 สิงหาคม โดยเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้เยี่ยมชมศูนย์บริการเทศบาลกรุงปักกิ่ง ศูนย์บริการชุมชนถนนเฉาหวาย ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง เขตสาธิตพลังงานไฮโดรเจนนานาชาติต้าซิง ห้องประชุม "สองโซน" ของศูนย์บริหารเทศบาลกรุงปักกิ่ง และสถานที่อื่น ๆ เพื่อเรียนรู้ถึงความสำเร็จของกรุงปักกิ่งตลอดสิบปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการนำเสนอข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง พร้อมทั้งสัมผัสกับเส้นทางสู่ความทันสมัยของจีนในกรุงปักกิ่งด้วยตนเอง
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2192286/image_1.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit