มาคุยกับ 3 นักศึกษาวิศวะมหิดล 'ป้ายแดง' ซึ่งหลากหลายมุมมองสะท้อนความคิดฝันของคนรุ่นใหม่ที่มีต่อโลกในวันข้างหน้าณภัทร นวสันติ หรือ เจ หนุ่มน้อยนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ (หลักสูตรนานาชาติ) กล่าวว่า หลังจากจบไฮสคูลจาก British Columbia ประเทศแคนาดา ผมก็กลับมาเรียนที่ประเทศไทย ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณพ่อซึ่งเป็นวิศวกร ทำให้เราสนใจด้านวิศวกรรมมาตั้งแต่เด็ก และด้วยเทรนด์โลกในอนาคตที่มีการใช้เทคโนโลยี หุ่นยนต์ เอไอ มากยิ่งขึ้น ผู้ที่มีทักษะด้านนี้จะได้เปรียบ จึงเลือกศึกษาต่อด้านวิศวกรรมอุตสาหการนานาชาติ ที่วิศวะมหิดล เพราะมีห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยรองรับ ให้ทุกคนได้ลงมือทำจริง รวมถึงประทับใจในสายสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้องที่เอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฝันในอนาคตของผม อยากจะสานต่อธุรกิจของครอบครัว พัฒนาให้ก้าวหน้า และสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วยครับ กันติทัต เจริญไชยศรี หรือ เติ้ล หนุ่มเฟรชชี่ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล กล่าวว่า ผมชอบคิดค้นทดลองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเอง จึงเลือกเรียนด้านวิศวกรรม เพราะได้ทักษะรอบด้าน เนื่องจากวิศวกรรมไม่เพียงแต่สอนในทางทฤษฎี แต่มีการให้ทดลองปฏิบัติการจริง ทำให้เข้าใจถึงเรื่องระบบ การวางแผนเป็นขั้นตอนมากยิ่งขึ้น ประทับใจความอบอุ่นของชีวิตในรั้ววิศวะมหิดล มีสีสันกิจกรรม ความร่วมมือกับหลากหลายหน่วยงาน ทำให้รู้สึกมีโอกาสในอนาคตมากยิ่งขึ้น ฝันในอนาคต อยากทำงานอีกหลายๆ อย่าง ที่สามารถทำควบคู่ไปกับงานด้านวิศวกรรมได้ เพื่อเพิ่มพูนทักษะและโอกาสอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกันและจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตในยุคอนาคตครับนภัส ศิริพละ หรือ มิลลี่ สาวนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) กล่าวว่า วิศวกรรมเป็นศาสตร์ที่สอนการคิดอย่างเป็นระบบ ใช้ความคิดเชิงวิเคราะห์และสร้างสรรค์ ไม่ได้ใช้ความจำเพียงอย่างเดียว ทำให้รู้สึกว่ามีความท้าทายที่จะเรียนรู้ และที่สำคัญ ประเทศไทยมีเป้าหมายจะเป็น Medical Hub วิศวกรรมชีวการแพทย์จึงเป็นทักษะที่จำเป็นในโลกอนาคต และเป็นที่ต้องการสูงค่ะ วิศวะมหิดลมีมาตรฐาน ABET รองรับ เมื่อเรียนจบจะสามารถต่อยอดและไปได้กว้างไกล การเรียนการสอนดูเป็นมิตร และสิ่งแวดล้อมดี ทำให้กระตุ้นแรงบันดาลใจอยู่เสมอ ทั้งกิจกรรม การเรียนการสอน โอกาสในการแลกเปลี่ยน และการทำงานวิจัย ความฝันในอนาคต อยากออกแบบอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ช่วยเหลือผู้พิการ และทำหุ่นยนต์สำหรับนักศึกษาแพทย์ใช้ในการเรียนผ่าตัด เพราะเสมือนได้สร้างโอกาสครั้งใหม่ให้ผู้ป่วยอีกหลายชีวิต ในอนาคตอยากจะเรียนต่อสาขานี้อีก และทำงานเป็นนักวิจัยในแล็บของทางภาควิชาด้วยค่ะ
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit