โนเกีย ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับเอ็นทีที (NTT) เพื่อให้บริการโซลูชันเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรสำหรับองค์กรธุรกิจกว่า 3.2 ล้านรายทั่วประเทศไทย เพื่อเร่งเดินหน้าสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างแท้จริงซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิต ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความปลอดภัยของคนงานที่สามารถประเมินผลได้ โดยโซลูชัน 5G ไร้สายระดับองค์กรของโนเกียที่ถูกนำไปใช้งานในหลายองค์กรทั่วประเทศ จะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานแอปพลิเคชันสำคัญสำหรับธุรกิจและการใช้งานทั่วทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การทำเหมืองแร่ เฮลธ์แคร์ และการศึกษา
เครือข่ายไร้สายระดับองค์กรถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในระยะไกล หรือในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่ไม่เอื้ออำนวย อาทิ พื้นที่ซึ่งสัญญาณ Wi-Fi ให้บริการได้ไม่เต็มที่ โดยเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยแบนด์วิดท์สูงและมีความหน่วงต่ำที่เชื่อถือได้ ซึ่งจำเป็นต่อการใช้งานในอุตสาหกรรม 4.0 ที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงพร้อมใช้งานตลอดเวลา ตลอดจนสมรรถนะในการใช้งานสำหรับแอปพลิเคชันสำคัญของธุรกิจ ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อองค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย ให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Industrial IoT (IIOT), Machine Learning (ML) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างเต็มที่
ความร่วมมือนี้ครอบคลุมถึงโซลูชันเครือข่ายอันล้ำสมัยต่าง ๆ ของโนเกีย ไม่ว่าจะเป็น Nokia Digital Automation Cloud (DAC), เครือข่ายอัตโนมัติ รวมทั้งแพลตฟอร์ม Industrial Digitalization Edge และ MX Industrial Edge (MXIE) ด้วยเทคโนโลยีและทรัพยากรของเอ็นทีทีและโนเกียที่นำมารวมกันในครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กรธุรกิจไทยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เข้าถึงชุดบริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ as-a-service ที่ช่วยให้สามารถใช้งานใน use case ต่าง ๆ อย่าง ฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twin) ที่เป็นระบบจำลองเสมือนจริงเพื่อติดตามเครือข่ายและควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ระบบวิเคราะห์ด้วยภาพวิดีโอ และระบบแมชชีนวิชั่น (Machine Vision) พร้อมวิดีโอแบบเรียลไทม์และสตรีมระบบ IoT เช่นเดียวกับอุปกรณ์อุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อแบบล่วงหน้า (Pre-integrated Industrial Devices) และแอปพลิเคชันต่างๆ ในแคตตาล็อกได้
สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวว่า "เราดีใจที่ได้ขยายขอบเขตความร่วมมือกับโนเกีย และได้นำเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรไปปรับใช้ในสถานประกอบการที่เป็นองค์กรธุรกิจมากมายในประเทศไทย ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยให้อุตสหากรรมไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและแอปพลิเคชัน 5G ขั้นสูงสุดได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นการปลดล็อกการใช้งานที่เป็นระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และโซลูชันสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลที่จะขับเคลื่อนผลิตภาพและประสิทธิภาพ ไปพร้อมกับช่วยให้พนักงานปลอดภัยยิ่งขึ้น"
อาร์เจย์ ชาร์มา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับเอ็นทีที และนำโซลูชันเครือข่าย 5G ไร้สายระดับองค์กรที่ล้ำสมัยของโนเกียไปใช้งานทั่วประเทศไทย ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันเป็นที่จับตามองมากขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมว่าเป็นหนทางสู่การเติบโตของธุรกิจรวมทั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืน ข้อตกลงในครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงเครือข่าย ซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐานของโนเกีย ซึ่งออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานและการยอมรับแอปพลิเคชันอุตสาหกรรม 4.0 และการใช้งานต่าง ๆ ขององค์กรธุรกิจทั่วประเทศไทย"
รากาฟ ซาห์กาล ประธานบริหารด้านบริการคลาวด์และเครือข่ายของโนเกีย กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนวาระการเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลของรัฐบาลไทย โนเกียวางแผนที่จะเปิดตัวบริการนี้ในตลาดอื่น ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นต่อไป"
บริการเครือข่ายสำหรับภารกิจสำคัญของโนเกียได้ถูกนำไปใช้งานโดยลูกค้าประเภทองค์กรธุรกิจชั้นนำมากกว่า 2,600 ราย ทั้งในภาคการขนส่ง พลังงาน องค์กรขนาดใหญ่ การผลิต โครงสร้างพื้นฐานแบบ webscale และหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ขยายความเชี่ยวชาญไปยังลูกค้าเครือข่ายไร้สายแบบส่วนตัวอีกกว่า 635 รายทั่วโลกและได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้ให้บริการด้านเครือข่ายไร้สายระดับองค์กรในอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกโดยนักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมจำนวนมาก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit