ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ระบุในบทความที่เขาลงนามและอนุญาตให้เผยแพร่ผ่านสื่อของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ว่า เขาตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อร่วมกันรับเอาวิสัยทัศน์ใหม่ พิมพ์เขียวใหม่ และมาตรการใหม่มาใช้ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-รัสเซีย ในอีกหลายปีข้างหน้า
บทความดังกล่าวมีชื่อว่า "เดินหน้าเปิดบทใหม่ของมิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาร่วมกันระหว่างจีน-รัสเซีย" (Forging Ahead to Open a New Chapter of China-Russia Friendship, Cooperation and Common Development) โดยเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์รัสเซียน กาเซตต์ (Russian Gazette) และเว็บไซต์ข่าวรีอะโนวัสติ (RIA Novosti) ก่อนที่ผู้นำจีนจะเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ
นายสี จิ้นผิง ได้รำลึกถึงอดีตว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกที่เขาเดินทางเยือนหลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเขาเยือนรัสเซียรวม 8 ครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่ไปก็มีความคาดหวังสูงและกลับมาพร้อมกับบรรลุผลสำเร็จมากมาย
บทความของนายสี จิ้นผิง ตอกย้ำว่า การมีปฏิสัมพันธ์ระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองมีบทบาทสำคัญในการชี้นำความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ทั้งคู่ได้พบกันถึง 40 ครั้งในโอกาสต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคีและระหว่างประเทศ โดยผู้นำทั้งสองได้วาดพิมพ์เขียวสำหรับความร่วมมือและมีการสื่อสารอย่างทันท่วงทีในประเด็นสำคัญระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคซึ่งทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกัน
นายสี จิ้นผิง ระบุว่า จีนและรัสเซียได้เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมืองร่วมกัน และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ในรูปแบบใหม่ บนหลักการของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด การไม่เผชิญหน้า และการไม่กำหนดบุคคลที่สามเป็นเป้า
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือหลายระดับของทั้งสองประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียทะลุ 1.9 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว หรือพุ่งขึ้น 116% จากทศวรรษที่แล้ว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมมือกันในโครงการต่าง ๆ รวมถึงในด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และภาคส่วนใหม่อื่น ๆ
ในบทความดังกล่าว ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้เขานำเสนอข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative), ข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative), ข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative) และข้อริเริ่มอารยธรรมระดับโลก (Global Civilization Initiative) นั่นคือ เมื่อครั้งที่เขากล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมอสโก (Moscow State Institute of International Relations) เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่า "ประเทศต่าง ๆ เชื่อมโยงกันและพึ่งพาซึ่งกันและกันในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน"
"ผลประโยชน์ร่วมกันของมนุษยชาติอยู่ในโลกที่เป็นปึกแผ่นและสงบสุข ไม่ใช่โลกที่แตกแยกและแปรปรวน" นายสี จิ้นผิง กล่าว
ในการรับมือกับวิกฤตยูเครนนั้น ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำจุดยืนของจีนที่ "เที่ยงธรรมและเป็นกลาง" พร้อมชูข้อเสนอหลายประการ เช่น การสนับสนุนทุกความพยายามที่เอื้อต่อการยุติวิกฤตอย่างสันติ และการรับประกันเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เป็นต้น
ผู้นำจีนระบุว่า เอกสารเกี่ยวกับจุดยืนของจีนว่าด้วยดุลยภาพทางการเมืองในวิกฤตยูเครน (China's Position on the Political Settlement of the Ukraine Crisis) ที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว มีเนื้อหาที่ "สร้างสรรค์ในการบรรเทาวิกฤตที่ลุกลามและอำนวยความสะดวกในการสร้างดุลยภาพทางการเมือง"
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยอมรับว่าไม่มีทางออกง่าย ๆ สำหรับปัญหาที่ซับซ้อน และเชื่อว่าตราบใดที่ทุกฝ่ายยอมรับวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคงอย่างครอบคลุมและยั่งยืนร่วมกัน ตลอดจนดำเนินการเจรจาและปรึกษาหารืออย่างเสมอภาค มีเหตุมีผล และมุ่งเน้นผลลัพธ์ ทุกฝ่ายก็จะค้นพบหนทางที่สมเหตุสมผลในการแก้ไขวิกฤต เช่นเดียวกับเส้นทางกว้างใหญ่ไปสู่โลกแห่งสันติภาพที่ยั่งยืนและความมั่นคงร่วมกัน
https://news.cgtn.com/news/2023-03-20/Xi-s-Russia-visit-to-adopt-new-vision-for-bilateral-ties-1iknim761mE/index.html
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit