ECL ประกาศงบปี 65
มีกำไรสุทธิ 184.56 ล้านบาท ส่วน
บอร์ดใจดีอนุมัติจ่ายเงินปันผล งวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.05 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มี.ค.66 รับเงิน 12 พ.ค.66 ด้านผู้บริหาร "ดนุชา วีระพงษ์" เดินหน้ารุก
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ตั้งเป้า 1-2 ปีข้างหน้ามีพอร์ตแตะระดับ 10,000 ล้านบาทนายดนุชา วีระพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง บริการรับต่อกรมธรรม์ประกันภัยและ พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยทางรถยนต์ เปิดเผยว่า ในปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 184.56 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 615.65 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้ดอกเบี้ยเช่าซื้อลดลง ซึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นผลมาจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ที่ยืดเยื้อ ทำให้ปล่อยสินเชื่อลดลงและพอร์ตลูกหนี้ลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัทมีการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน ร้อยละ 36.55 เนื่องจาก เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวในช่วงปลายปี โดยมีแรงขับเคลื่อนมาจากภาคบริการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชน มีการขยายตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของรายได้ในกลุ่มลูกจ้าง บริษัทฯ มีความชำนาญและประสบการณ์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจมามากกว่า 40 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดในภาคตะวันออก ครอบคลุมตั้งแต่กรุงเทพฯ,ชลบุรี, ศรีราชา,ระยอง และจันทบุรี เนื่องจากภาคตะวันออกเป็นพื้นที่มี GDP สูงสุด ประกอบกับประชากรมีฐานเงินเดือนและมีรายได้ที่ดี
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถบิ๊กไบค์และรถบรรทุกมือสอง โดยมองถึงการขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายและพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ปัจจัยบวกจากตลาดรถมือสองที่มีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 จึงคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์มือสองกลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 1-2 ปีข้างหน้า จะมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 10,000 ล้านบาท และยังเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทฯ ในอนาคตจะเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วยทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังจากผลการดำเนินงานตั้งแต่กรกฎาคม-ธันวาคม 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้น จำนวน 1,108,859,002 หุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 55,442,950.10 บาท และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 13 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566