ต่อยอดความสำเร็จงานแสดงสินค้าอินทราโลจิสติกส์ในประเทศไทย พบกับงาน LogiMAT | Intelligent Warehouse 2023 ปักหมุดขยายพื้นที่ 2 เท่า

นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของงานแสดงสินค้าสุดยอดเทคโนโลยีระบบคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบจัดการ LogiMAT | Intelligent Warehouse 2022 ว่างานได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจำนวนผู้เข้าชมงาน 3,635 คน จาก 20 ประเทศทั่วโลก และรวมถึงผู้เข้าร่วมจัดแสดงถึง 45 บริษัท จาก 7 ประเทศ คือ ไทย เยอรมนี อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และจีน นอกจากนี้ยังมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกิจกรรมภายในงาน โดยเฉพาะเวทีพูดคุยและให้ความรู้ของอุตสาหกรรมกว่า 25 เซสชันจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ รวมไปถึงกิจกรรมอื่น ๆ เช่น Young Gen Showcase, คลินิกให้คำปรึกษา และอีกมากมาย ที่ต่างได้ผลตอบรับอย่างน่าพึงพอใจจากทุกฝ่ายที่เข้าร่วมงาน

สำหรับการกลับมาของงาน LogiMAT | Intelligent Warehouse 2023 ในปีนี้ จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม จากการเพิ่มพื้นที่การจัดงานเป็น 2 เท่า เพื่อรองรับผู้ประกอบการ ผู้มีศักยภาพด้านการลงทุน และผู้มีส่วนตัดสินใจขับเคลื่อนองค์กร ทั้งไทยและต่างชาติ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ กว่า 100 แบรนด์ พร้อมกิจกรรมที่เต็มด้วยคุณภาพและน่าสนใจกว่าเดิม อาทิ เวทีสัมมนา Orange Forum พูดคุยเทรนด์และแนวโน้มสำคัญของอินทราโลจิสติกส์ และเวทีสัมมนา Blue Forum พูดคุยด้านโซลูชั่นของอินทราโลจิสติกส์ ที่เข้ามาช่วยเหลือ-แก้ไขปัญหาให้ธุรกิจในเชิงลึกและมีความเฉพาะตัวในแต่ละอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการนำเอาโซน Product Demonstration กลับมาในงานอีกครั้ง เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมงานเห็นถึงภาพรวมในการจัดการระบบคลังสินค้าได้ง่ายมากขึ้น ตลอดจนได้เห็นขั้นตอนและกระบวนการต่าง ๆ ที่ช่วยให้เข้าใจการทำงาน เข้าใจในความจำเป็นในการใช้ระบบคลังสินค้าในธุรกิจ ทั้งกับขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ รวมถึงกิจกรรมและความน่าสนใจที่รวมไว้ในงานอีกมากมาย

LogiMAT | Intelligent Warehouse 2023 จะเป็นอีเวนต์ครั้งสำคัญที่มีครอบคลุมทั้งเรื่องคลังสินค้าและระบบการจัดการทั้งระบบมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย พร้อมมีหัวข้อสัมมนาตอบโจทย์เทรนด์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่คลี่คลายลงและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้งานในปีนี้กลับมาคึกคักอย่างเต็มกำลัง โดยคาดหมายว่าจะมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงงาน กว่า 10 ประเทศ ทั้งจากในเอเชียและยุโรป อาทิ ผู้จัดแสดงจากประเทศเยอรมนี จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ทั้งยังคาดสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้กว่า 6,000 ราย

ด้าน Mr. Peter Kazender, CEO, Logistics Exhibitions GmbH, Managing Director, Euroexpo กล่าวว่า ด้วยความที่เราเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าเราจึงต้องตอบสนองต่อความต้องการของตลาด และเทรนด์ที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ บนโลกใบนี้ บวกกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบห่วงโซ่อุปทาน ทำให้บริษัทใหญ่ ๆ ต้องการความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ จึงมีการมองหาฐานการผลิตและตลาดใหม่ ๆ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นถือว่าเป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ข้อนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีทรัพยากรแรงงานที่มีศักยภาพ ความพร้อมที่จะทำงาน ความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนี่งในการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจในอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี และประเทศไทยก็เป็นหมุดหมาย เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของอาเซียนที่มีการเติบโตโดดเด่น ทำให้เราเลือกประเทศไทยในการจัดงาน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ในปีนี้นอกจากการขยายการจัดงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้นแล้วนั้น ผู้จัดงานยังมีการนำเสนอ โซนใหม่ "ASEAN Cold Chains Solutions" ที่จะเป็นพื้นที่ในการนำเสนอโซลูชั่นที่มีความเฉพาะตัว และตอบโจทย์อุตสาหกรรมหลักของกลุ่มประเทศอาเซียนมายิ่งขึ้น

ขณะที่ Mr. Bernhard Mueller, Vice President, Landesmesse Stuttgart GmbH. กล่าวว่า อย่างที่เราทราบกันว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่โดดเด่นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เท่านั้น แต่อุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากผู้นำในตลาดอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ เยอรมนี และจีน ประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียนเริ่มมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะผู้ผลิต ผู้ซื้อ และในฐานะผู้จัดจำหน่ายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญอาเซียนยังเป็นกลุ่มประเทศที่มี GDP ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กลุ่มประเทศเหล่านี้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนมีกำลังในการซื้อและการผลิตมากยิ่งขึ้น ร่วมการเปลี่ยนแปลงในระบบของห่วงโซ่อุปทานและเทรนด์ของอินทราโลจิสติกส์ ส่งผลให้ตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่สำคัญและน่าจับตามองอีกหนึ่งตลาดของอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์โลก

ด้าน นายอำนาจ ประกอบสุข เลขาธิการนายกสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทย กล่าวว่า ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของ "Local System Integrator (Local SI)" ที่สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนในอุตสาหกรรมอินทราโลจิสติกส์ไทย เพราะประเทศไทยมากด้วยกิจการทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าขนาดใหญ่ โดยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่เราจะเข้าไปพัฒนาความรู้ความสามารถให้เพิ่มพูนมากขึ้น ปรับมาตรฐานและยกระดับสู่มาตรฐานสากล โดยใช้ต้นแบบจากยุโรปมาเป็นแนวทาง พร้อมสร้างเครือข่ายภายในสมาชิกให้มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น ผ่านการออกแบบกิจกรรมสัมมนาภายในงานครั้งนี้

"งานในครั้งนี้มีการจัดแสดงที่ตอบโจทย์กับผู้เข้าร่วมงานอย่างครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม เพราะผู้ประกอบการทุกกลุ่มต่างต้องใช้คลังสินค้าเมื่อธุรกิจโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคลังสินค้าของตัวเอง หรือการใช้บริการคลังสินค้าภายนอก อีกทั้งภายในงานนี้ ไม่เพียงจะสร้างผลดีในด้านการเจรจาธุรกิจเท่านั้น เพราะยังช่วยผู้ประกอบการได้เข้าถึงการอัปเดตเทรนด์อุตสาหกรรมปัจจุบันที่ต้องมีการสต๊อกสินค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ เช่น อาหาร ยา เคมี ยานยนต์ และอื่น ๆ"

เตรียมพบกับงาน LogiMAT | Intelligent Warehouse 2023 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 5-6 ในระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.logimat-iw.com หรือติดตามบน www.facebook.com/logimatIW

• ข่าวคลังสินค้าอัจฉริยะ
• ข่าวงานแสดงสินค้า
• ข่าวเมืองทองธานี
• ข่าวผู้ประกอบการ
• ข่าวโลจิสติกส์