ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ผงาด หนึ่งเดียวของไทยใน TOP 70 ของโลก และ TOP 2 ของอาเซียน QS World University Rankings by Subject 2023

02 May 2023

จากความมุ่งมั่นในการพัฒนางานวิจัย สร้างสรรค์นวัตกรรม รวมถึงผลงานความก้าวหน้าและพัฒนาการในด้านต่างๆ ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by Subject 2023 ให้ติดอันดับ TOP 70 ของโลก ในสาขาทันตแพทยศาสตร์ (Dentistry) เป็นครั้งแรก และจัดอยู่ใน TOP 2 ของอาเซียน และอันดับ 1 ของประเทศไทย

ทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ผงาด หนึ่งเดียวของไทยใน TOP 70 ของโลก และ TOP 2 ของอาเซียน QS World University Rankings by Subject 2023

ศ.ทพ.ดร.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยถึงความสำเร็จของคณะในระดับนานาชาติในครั้งนี้ว่า นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งเพราะเป็นครั้งแรกที่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปรากฎชื่ออยู่ในระบบ Ranking ของ QS World University Rankings by Subject แสดงให้เห็นว่าคณะได้มาตรฐานระดับโลก ปัจจัยแห่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการพัฒนาที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้านของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ทั้งงานวิจัย วิชาการ และการบริการวิชาการ ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ภารกิจหลักทั้ง 3 ด้านของคณะได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน

ในด้านงานวิจัย ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มุ่งเน้นการตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพสูงในวารสารวิชาการนานาชาติในระดับ Q 1 ซึ่งพบว่ามีจำนวนผลงานวิชาการของคณะเพื่อตอบโจทย์สังคมที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งบริษัท ซี.ยู.เดนท์ เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด ส่งผลให้คณาจารย์และนิสิตพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ตอบโจทย์การพัฒนาผลงานนวัตกรรมนำไปสู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์

ในด้านวิชาการ คณะทันตแพทยศาสตร์มีการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้นในรูปแบบของ Education Innovation โดยมีหลักสูตรต่างๆ จำนวนมากที่เป็นความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ รวมทั้งยังมีหลักสูตรผลิตทันตแพทย์ร่วมกับวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข คณะวิศวกรมศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ อีกด้วย รวมทั้งมีโครงการแลกเปลี่ยนนิสิตต่างชาติ การส่งเสริมให้คณาจารย์ไปนำเสนอผลงานทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศ

ด้านการให้บริการวิชาการ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ (HA) ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นศูนย์ Tertiary Healthy Care ทางทันตกรรม รวมถึงพัฒนาโครงการ Teledentistry เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทยในถิ่นทุรกันดารและผู้ด้อยโอกาส ด้วยการสร้างเครือข่ายชุมชนผ่านทางอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทำหน้าที่ในการคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้นให้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากก่อนที่จะเข้ารับการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาล มีโครงการความร่วมมือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในการนำนวัตกรรม AI เข้ามาใช้ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. (PTT Station) ในรูปของคลินิกที่มีลักษณะคล้ายตู้เอทีเอ็ม ให้บริการ 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยสามารถเข้าไปพิมพ์อาการป่วยของตนเอง ระบบ AI จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการรักษาอาการป่วยในเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. วิภาวดีรังสิต 62

"คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีความโดดเด่นในด้านการวิจัย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ส่งเสริมให้คณาจารย์ในคณะพัฒนางานวิจัย วิชาการ โดยมีทุนสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่ที่ทางคณะและมหาวิทยาลัยให้การสนับสนุน มีการจัดทำ Workshop เขียนบทความวิจัย โดยมีนักวิจัยอาวุโสเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังมีการสร้างกลุ่มพันธมิตรวิจัยขึ้น ในส่วนของคณาจารย์นั้น คณะมีคณาจารย์ที่มีคุณภาพ มีการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการทำวิจัย และมีงบประมาณสนับสนุนการทำวิจัยที่เพียงพอ ทำให้นักวิจัยมีความสุขกับการพัฒนาผลงานวิจัยเพิ่มขึ้น ด้านการให้บริการของคณะก็มีความโดดเด่นอย่างมาก ทั้งในส่วนของคลินิกการรักษาทางทันตกรรมที่ทันสมัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ" ศ.ทพ.ดร.พรชัยกล่าว

คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานต่างๆ ภายนอกเป็นจำนวนมาก ศ.ทพ.ดร.ธนภูมิ โอสถานนท์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีโครงการความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการผลิต Nano-hydroxyapatite ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้เป็นสารทดแทนกระดูกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย และสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อส่งเสริมการคืนกลับแร่ธาตุของผิวฟัน นอกจากนี้ทางคณะยังร่วมมือกับบริษัท โอสถ อินเตอร์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด พัฒนาน้ำยาบ้วนปากก่อนและหลังทำฟันเพื่อลดการติดเชื้อ ซึ่งขณะนี้มีจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว

ศ.ทพ.ดร.พรชัยเผยถึงนวัตกรรมส่วนหนึ่งจากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ที่น่าสนใจ อาทิ Dent Cloud เป็นระบบบริหารจัดการคลินิกทันตกรรมที่ทำงานอยู่บนระบบ Cloud ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลคลินิกทันตกรรมของตัวเองได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นการช่วยเหลือสังคมได้อย่างดียิ่ง การพัฒนา Dent Product เช่น ยาสีฟัน "คูฬเดนท์" ซึ่งเป็นยาสีฟันคุณภาพดี หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้สารจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Silver Diamine Fluoride เพื่อป้องกันฟันผุในเด็ก สามารถระงับอาการฟันผุได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าสามารถผลิตเองได้ในประเทศ จะทำให้ราคาถูกลงและสามารถนำไปใช้ในชุมชนได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีการสร้าง CU Dental Academy ในการให้ความรู้ผ่านการศึกษาต่อเนื่องทั้งในรูปแบบ upskill และ reskill ให้ทันตแพทย์ไทย ทำให้มีทันตแพทย์ที่มีคุณภาพสูงออกไปทำหน้าที่ในการดูแลประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

"ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านงานวิจัยมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมตามเทรนด์ของโลก รวมถึงความโดดเด่นในด้านการพัฒนาผลงานวิชาการและการให้บริการแก่สังคม ส่งผลให้คณะมีชื่อปรากฏอยู่ใน Top Ranking ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการช่วยเหลือดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชนอย่างครอบคลุมและทั่วถึง เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพฟันที่ดีมีคุณภาพอย่างยั่งยืนตลอดไป" คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวในที่สุด

HTML::image(