"บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ หรือ BRR" ประกาศผลงานงวดไตรมาส 1 ปี 66 รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,547.11 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 15.14% รับผลบวกราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้นและอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า อย่างไรก็ดี "อนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ" แม่ทัพใหญ่ ประเมินปี 66 ทุกกลุ่มธุรกิจมีกำไร สนับสนุนผลงานปีนี้เชื่อว่ายังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้ามุ่งสู่การดำเนินธุรกิจตามเป้าหมาย "Toward Sustainable Future" เน้นความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างธุรกิจบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย และธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 2,547.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 334.90 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างชัดเจน 15.14% จากงวดเดียวกันของปี 2565 สาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจาก บริษัทมีปริมาณการส่งออกน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นราว 11% และได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 6% ต่อตันน้ำตาล
สำหรับแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก รับปัจจัยเชิงบวกด้วยราคาน้ำตาลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นระยะ ๆ จากความต้องการใช้เอทานอลในภาคขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลกอย่างอินเดีย มีการปรับสัดส่วนการผลิตน้ำตาลลงและเพิ่มสัดส่วนการผลิตเอทานอลมากขึ้น ประกอบกับบราซิลกำลังประสบปัญหาเรื่องระบบการขนส่งที่มีความแออัดบริเวณท่าเรือ เป็นเหตุให้เรือขนส่งน้ำตาลต้องรอคิวอย่างน้อย 1 - 2 เดือน ส่งผลต่อผลผลิตน้ำตาลออกสู่ตลาดผู้นำเข้าล่าช้า เกิดภาวะขาดแคลนขึ้น อีกทั้งประเทศผู้ผลิตหลักของโลกผลผลิตลดลงกว่าที่คาดไว้ จึงมีการวิเคราะห์แนวโน้มว่าอาจเกิดวิกฤติการขาดแคลนอาหารขึ้นทั่วโลก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ต่างหนุนให้ราคาน้ำตาลปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดน้ำตาลยังเป็นไปในเชิงบวก โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำตาลทรายดิบในระยะเวลา 2 - 3 เดือนนี้จะอยู่ในช่วงราคา 27 - 30 เซนต์/ปอนด์ เนื่องด้วยปัจจัยที่มาสนับสนุนราคาตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจส่งออกน้ำตาลของไทยในปี 2566 ประกอบกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อรายได้จากการส่งออกน้ำตาล และภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัท" นายอนันต์ กล่าวทิ้งท้าย
โดยแผนกลยุทธ์ปี 2566 บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตจากศักยภาพของทุกกลุ่มธุรกิจ สนับสนุนผลงาน ในปีนี้เชื่อว่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และเดินหน้ามุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างธุรกิจบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย และธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง
ด้านความคืบหน้าโครงการ Wood Pellet ในสปป.ลาว ที่ BRR ได้ร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง ราช กรุ๊ป และพันธมิตรจากทางญี่ปุ่นจัดตั้งบริษัทร่วมกัน ในนามบริษัท สีพันดอน - ราชลาว จำกัด มีกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปีนั้น บริษัทมีสัญญาจองซื้อระยะยาว 15 ปี จากบริษัทในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ที่ราคาเฉลี่ย 170 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน คิดเป็นรายได้มูลค่า 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 590 ล้านบาท โดยขณะนี้การก่อสร้างโรงงานและนำเข้าเครื่องจักรดำเนินการไปแล้วกว่า 70% คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3 ปี 2566 นี้ตามแผน
BRR มีแผนการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า (2566-2570) ตั้งเป้าหมายรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันกลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์มีโนฮาวด้านต่าง ๆ โดยบริษัทฯ ได้แตกไลน์ในการพัฒนาธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มรายได้ให้ BRR เติบโตอย่างยั่งยืน และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของธุรกิจน้ำตาลซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก กลุ่มธุรกิจ BRR มุ่งสู่การดำเนินธุรกิจรักษ์โลก และต่อยอดธุรกิจคาร์บอนเครดิต ตามเป้าหมาย "Toward Sustainable Future"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit