"ทรีนีตี้"ชู 5 จุดแกร่งลุยธุรกิจปี 2566 เดินหน้าธุรกิจด้านวาณิชธนกิจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นที่ปรึกษาขายหุ้นกู้ ขณะที่ธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ตั้งเป้าเติบโตขึ้นร้อยละ 20 พร้อมลุยธุรกิจนอกตลาด และเตรียมนำ "ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง" เข้าจดทะเบียนในตลาด MAI
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยในงาน Opportunity Day ของ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) "TNITY" ถึงทิศทางการทำธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2566 ว่าบริษัทยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ และพันธกิจที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด ถึงแม้ปีนี้ตลาดหุ้นยังผันผวนแต่ด้วยการที่บริษัทมี 5 จุดแกร่งที่สำคัญคือ 1. การมีธรรมาภิบาล 2.การมีโครงสร้างรายได้ที่กระจายตัวไม่พึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง 3. การมีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ครบทุกประเภท 4.การมีผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์ในตลาดทุนที่ยาวนาน และ 5. การมีฐานลูกค้า High Net worth จะสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเดินหน้าธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างเต็มที่โดยจะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ MAI จำนวน 3 บริษัท และบริษัทที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน 8-10 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายประเภท ได้แก่ ธุรกิจการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม ขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมและเครื่องจักร
บริษัทยังมีงานที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กร การปรับโครงสร้างทางการเงินและการควบรวมกิจการทั้งในและต่างประเทศซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 3-6 บริษัท รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาในการจำหน่ายหุ้นกู้มากกว่า 10 บริษัท ได้แก่ ธุรกิจพลังงานทดแทน AMC การเงินและหลักทรัพย์ ประกันภัย เทคโนโลยี และธุรกิจการเกษตร ในส่วนของธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคล บริษัทตั้งเป้าเติบโตขึ้นร้อยละ 20 หรือมีมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 3,550 ล้านบาท
ดร.วิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจนอกตลาด ที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัท ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมค้า โดยลงทุนในอัตราร้อยละ 30.07 ดำเนินธุรกิจประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องในปี 2565 บริษัท ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง จำกัด มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจ 53 ล้านบาท และในอนาคตมีแผน ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI
นอกจากนี้ บริษัทมีการลงทุนในบริษัทร่วม 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดิจิทัล แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ จำกัด (DAM) ลงทุนมูลค่า 12.5 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับ Wealth and Human Resources Management ครบวงจร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม และในบริษัท ไทยแท็คซ์ ซีบีดี สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด ลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการปลูก และ/หรือสกัด และจำหน่าย ช่อดอก ใบ เปลือก ลำต้น และส่วนประกอบอื่นรวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ผลิตกัญชง และ/หรือกัญชา อยู่ในระหว่างการดำเนินการซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2566
.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit