PACO หรือ บมจ. เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ ดีลพันธมิตรกลุ่มบริษัทคูโบต้า พัฒนางานผลิตชิ้นส่วนแอร์รถเพื่อการเกษตร การก่อสร้างขนาดกลางและขนาดใหญ่ ครอบคลุมระบบแอร์แบบครบวงจร คาดรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 2 นี้
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO กล่าวว่า PACO ได้เซ็นสัญญาการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถเพื่อการเกษตรและการก่อสร้างกับกลุ่มบริษัทคูโบต้า จำนวนหลายรุ่น อาทิ รถตัก รถไถ รถเกี่ยวข้าว ซึ่งได้ร่วมมือพัฒนาแอร์ทั้งระบบแอร์ คอยล์เย็น คอยล์ร้อน คอมเพลสเซอร์ สายน้ำยา ครอบคลุมระบบปรับอากาศได้แบบครบวงจร โดยมีแผนขยายตลาดในไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการผลิตแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าการผลิตอยู่ที่ 6,000 คัน ภายในระยะเวลา 3 ปี ในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 500 -1,000 คัน ปี 2567 จำนวน 2,000 คัน และในปี 2568 จำนวน 3,000 คัน โดยจะรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป อีกทั้งยังสามารถช่วยหนุนผลงานปีนี้ให้เติบโตได้ตามที่ตั้งเป้าไว้อีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจทั้งในต่างประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ส่งผลให้มียอดผลิตยาวต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางปี 2566 อีกทั้งบริษัทฯ เตรียมที่จะเพิ่มกำลังผลิตอีกประมาณ 20% เพื่อรองรับออเดอร์จากลูกค้าทุกกลุ่ม โดยกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้รายได้ในการผลิตสินค้า Aftermarket มากขึ้น10% ในขณะที่แนวโน้มการเติบโตของงานรับจ้างผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ (OEM) และงานรับจ้างผลิตเพื่อนำไปรองรับการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ตามศูนย์บริการรถยนต์ (OES) ปี 2566 คาดจะเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวโดยคิดเป็นสัดส่วน 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% เนื่องจากบริษัทฯเริ่มผลิตชิ้นส่วนแบบ Mass Production ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ Plug-in Hybrid ในต้นปีนี้ และจะรับรู้รายได้ส่วนนี้เต็มปีเป็นปีแรก
สำหรับรายได้ปี 2566 นี้คาดว่าจะเติบโตตามเป้าประมาณ 20-30% ตามที่ตั้งไว้ บริษัทฯ เตรียมขยายตลาดส่งออก ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ดี เนื่องจากธุรกิจ REM หรือ อะไหล่ทดแทน จะได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อรถใหม่ อีกทั้งปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ได้คลี่คลายลงอย่างมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถส่งออกเพิ่มขึ้นได้ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้น ตลาดตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศ PACO จะขยายเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) เพื่อสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ของคนไทย โดยเราตั้งเป้าหมายที่ จะมีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 300 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันได้เปิดไปแล้วกว่า 250 สาขา ทั่วประเทศ โดยภายในร้านจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solution) บริษัทวางเป้าหมายการจำหน่ายสินค้าผ่าน PACO Auto Hub ในแง่ของการเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้จากตลาดในประเทศที่มีสัดส่วน 55% ของรายได้รวมในปี 65 ที่จะผลักดันให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ครบ 500 สาขาในอนาคต"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit