นักวิจัยหน่วยชีวเคมี คณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ พัฒนา "สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น" และ "สเปรย์น้ำหอมสำหรับสัตว์เลี้ยงจากสารสกัดเปลือกมังคุด" นำเทคโนโลยีนาโนมาใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ รับรองความปลอดภัย มีจำหน่ายแล้วโดยบริษัทสตาร์ทอัพของคณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ
เจ้าตูบกลิ่นแรง หรือน้องแมวเลียตัวจนขนร่วง นี่อาจเป็นสัญญาณของอาการแพ้ที่เกิดมาจากไรฝุ่น หรือเชื้อแบคทีเรียที่หมักหมมอยู่ตามผิวหนังของเจ้านายสี่ขาทั้งหลาย การแก้ปัญหามีหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธียอดนิยมคือการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น สเปรย์กำจัดไรฝุ่น สเปรย์อาบน้ำ สเปรย์ลดกลิ่นตัวสัตว์เลี้ยง ฯลฯ ซึ่งมีมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพียงใดสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก
คำถามนี้จุดประกายให้นักวิจัยจากหน่วยชีวเคมี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ วิจัยและพัฒนา "สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น" และ "สเปรย์น้ำหอมสำหรับสัตว์เลี้ยงจากสารสกัดเปลือกมังคุด" โดยนำนาโนเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ การันตีความเป็นสุดยอดนวัตกรรมด้วยรางวัลเหรียญทองและรางวัลพิเศษ Special Award อีก 2 รางวัลจากการประกวดนวัตกรรมระดับนานาชาติ "2022 The 13th International Innovation and Invention Competition" ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
สเปรย์สมุนไพรนาโนกำจัดไรฝุ่น ปกป้องเต็มร้อย ปลอดภัยเต็มที่ทั้งสัตว์และคน
ไม่เพียงมนุษย์ แต่สัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมวก็แพ้ไรฝุ่นได้เช่นกัน โดยอาการแพ้ไรฝุ่นที่พบโดยทั่วไป อาทิ อาการคัน น้ำตาไหล ผิวหนังเป็นหนอง หรือหากสัตว์เลี้ยงมีอาการแพ้ขั้นรุนแรง ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
"ไรฝุ่น" เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อยู่ปะปนในอากาศภายในบ้านทั้งในที่นอน หมอน ผ้าห่ม โซฟา ฯลฯ วิธีกำจัดไรฝุ่นทำได้หลายวิธี เช่น การซักผ้าและนำไปตากแดดหรืออบร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป การทำความสะอาดที่อยู่อาศัย ซึ่งหากใช้เครื่องดูดฝุ่นก็จะสามารถกำจัดไรฝุ่นได้เฉพาะที่อยู่บริเวณพื้นผิวภายนอกเท่านั้น และการใช้ผลิตภัณฑ์สเปรย์กำจัดไรฝุ่น ซึ่งเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคเนื่องจากใช้ง่ายและเบาแรง
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์สเปรย์กำจัดไรฝุ่นที่มีจำหน่ายในท้องตลาดเป็นสเปรย์ที่ใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลาย จึงมีกลิ่นฉุนและระเหยเร็ว ทำให้อายุการใช้งานสเปรย์สั้นและสิ้นเปลือง ทีมวิจัยจาก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จึงคิดค้นนวัตกรรมเพื่อกำจัดจุดอ่อนดังกล่าวด้วยเทคโนโลยีนาโน
หัวหน้าโครงการพัฒนาสเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น นางสาวนันทิดา คุณสุทธิ์ เจ้าหน้าที่บริการวิทยาศาสตร์ หน่วยชีวเคมี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยถึงสรรพคุณของสเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่นว่า "ผลิตภัณฑ์ของเราทำมาจากสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ กานพลู อบเชย และตะไคร้หอม มีกลิ่นหอมและมีฤทธิ์กำจัดไรฝุ่นได้ดี เราใช้อนุภาคนาโนมาห่อหุ้มตัวสมุนไพรไว้ ทำให้แอลกอฮอล์กระจายตัวในน้ำได้ดี ช่วยให้ระยะเวลาการออกฤทธิ์ยาวนานขึ้นถึง 7 - 8 ชั่วโมง เนื่องจากเราไม่ต้องฉีดสเปรย์ที่ตัวสัตว์โดยตรง โอกาสที่จะเกิดอาการแพ้จึงน้อยมาก"
"สเปรย์กำจัดไรฝุ่นนาโนใช้ง่าย เพียงฉีดพ่นบริเวณพื้นผิวของที่นอน หมอนมุ้ง โซฟา เฟอร์นิเจอร์ พื้นพรม เบาะนอนของสัตว์เลี้ยงสัปดาห์ละครั้ง" นางสาวนันทิดา กล่าวเสริม
อาจารย์ ดร.ธีรพงศ์ ยะทา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายนวัตกรรมวิจัยและผู้ประกอบการ คณะ สัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ อาจารย์ที่ปรึกษาการพัฒนานวัตกรรม อธิบายกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ว่าประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก เริ่มจากการเตรียมสารสกัดสมุนไพร การห่อหุ้มสารสกัดสมุนไพรด้วยอนุภาคนาโนโดยใช้ระบบที่เรียกว่า Nanostructured lipid carriers และสุดท้ายเป็นขั้นตอนการวิเคราะห์คุณสมบัติทางนาโน ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนที่ 3 แล้ว ทีมวิจัยได้ส่งผลิตภัณฑ์ไปวิเคราะห์ทดสอบไรฝุ่นที่ศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราช
"ผลิตภัณฑ์สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่นพฤกษานาโนของเราสามารถกำจัดไรฝุ่นได้ 100% ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง องค์ประกอบทุกอย่างในสเปรย์เป็นเกรด cosmetic จึงมีความปลอดภัยต่อคนและสัตว์ ไม่เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ผู้ที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ก็พอใจและไม่ได้กล่าวถึงอาการแพ้แต่อย่างใด" อ.ดร.ธีรพงศ์ เผยผลการทดสอบประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์
ปัจจุบัน ทีมวิจัยได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตสเปรย์กำจัดไรฝุ่นให้บริษัท OEM ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และในอนาคตผู้วิจัยวางแผนว่าจะต่อยอดงานวิจัยในการพัฒนาเผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงชนิดอื่น ๆ ที่รบกวนสัตว์เลี้ยง เช่น เรือด หมัด เห็บ
กำจัดกลิ่นบำรุงขนสัตว์เลี้ยงต้องนาโนสเปรย์จากสารสกัดเปลือกมังคุด
นอกจากไรฝุ่นอันเป็นสาเหตุของปัญหาผิวหนังและอาการแพ้ต่าง ๆ ในสัตว์เลี้ยงแล้ว "กลิ่น" ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่น้อย กลิ่นของสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้นได้ทุกวัน มีเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนังซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจทำให้สัตว์เลี้ยงเป็นโรคผิวหนังได้ การอาบน้ำทำความสะอาดเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยระงับปัญหากลิ่นกายในสัตว์เลี้ยง แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป (มากกว่าสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง) เพราะจะทำให้ผิวหนังของสัตว์เลี้ยงแห้ง และเกิดโรคผิวหนังตามมา และในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเพิ่งได้รับวัคซีนหรือผ่านการผ่าตัดมา การอาบน้ำก็เป็นเรื่องที่ต้องเว้นวรรคระยะหนึ่งเลยทีเดียว อันอาจเป็นเหตุให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียได้
โจทย์นี้ได้จุดประกายความคิดให้นางสาวสุจินต์ ศิริสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ จากหน่วยชีวเคมี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าโครงการพัฒนานาโนสเปรย์สารสกัดจากเปลือกมังคุด สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในสัตว์เลี้ยง
"ผลิตภัณฑ์นี้นำสารสกัดนาโนจากเปลือกมังคุดมาช่วยในการกำจัดกลิ่นและถนอมผิวสัตว์เลี้ยงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และต้านการอักเสบของผิวหนังด้วย สเปรย์สามารถซึมผ่านใต้ผิวหนังได้ดี ปราศจากสารเคมี มีกลิ่นหอมยาวนาน ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์" นางสาวสุจินต์เผยจุดเด่นของนวัตกรรม
อ.ดร.ธีรพงศ์กล่าวว่านาโนสเปรย์สารสกัดจากเปลือกมังคุดได้ผ่านการวิจัยและทดสอบ จนกลายเป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์เพื่อกำจัดกลิ่นและขจัดเชื้อแบคทีเรียในสัตว์เลี้ยง โดยขั้นตอนการทำวิจัย เริ่มจากการนำสารสกัดเปลือกมังคุดที่มีชื่อว่า Alpha-Mangosteen มาศึกษาวิจัยในรูปของนาโนเทคโนโลยี ทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย จากนั้นจึงนำไปทดสอบในสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้ผลตอบรับดี ไม่พบอาการแพ้หรือระคายเคืองในสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด
"เมื่อฉีดสเปรย์บนตัวสัตว์เลี้ยงแล้ว อนุภาคนาโนที่นำมาใช้ห่อหุ้มสารสกัดจากเปลือกมังคุดจะเพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ให้ผิวหนังดูดซึมสารกสัดเลือกมังคุดลงใต้ผิวหนังได้ดีขึ้น ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย นอกจากนี้ วัตถุดิบที่นำมาใช้ในสเปรย์ก็ได้รับการเลือกสรรแล้วว่ามีความปลอดภัยสูง รวมทั้งปราศจากแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงไม่ทำให้ผิวหนังของสัตว์แห้ง และไม่เป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงเวลาที่พวกมันเลียขน"
นอกจากสุนัขและแมวแล้ว ในอนาคตผู้วิจัยวางแผนจะต่อยอดงานวิจัยนี้ไปใช้ในสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น เช่น กระต่าย นกสวยงาม และมีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่น เช่น แชมพูสารสกัดจากเปลือกมังคุดกำจัดกลิ่นในสัตว์เลี้ยง
"สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น" และ "สเปรย์น้ำหอมสำหรับสัตว์เลี้ยงจากสารสกัดเปลือกมังคุด" ได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากจากทุนพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (ทุน R2R) และจัดจำหน่ายโดยบริษัท วีบีซี คิทเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของหน่วยชีวเคมี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายแล้วที่หน่วยชีวเคมี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โทร. 0-2218-9543, 0-2218-9546 และในอนาคตก็จะมีการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit