หัวเว่ย (Huawei) เปิดฉากการประชุมสุดยอดนักวิเคราะห์ระดับโลก (Global Analyst Summit หรือ HAS) ประจำปีครั้งที่ 20 ณ เมืองเซินเจิ้น โดยมีนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม, นักวิเคราะห์ทางการเงิน, ผู้มีอิทธิพลทางความคิด (KOL) และตัวแทนสื่อมวลชนจากทั่วโลกเข้าร่วมการประชุมกว่า 1,000 คน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานะของอุตสาหกรรม ICT รวมถึงกลยุทธ์การพัฒนา แผนงานสำหรับการพลิกโฉมทางดิจิทัล และแนวโน้มอุตสาหกรรมในอนาคต
ภายในงาน คุณซาบรีนา เมิ่ง (Sabrina Meng) รองประธาน, ประธานหมุนเวียน และซีเอฟโอของหัวเว่ย ได้กล่าวปาฐกถาเปิดการประชุม โดยระบุว่า "การแปลงผ่านสู่ดิจิทัลเป็นน่านน้ำสีคราม (Blue Ocean) สำหรับทั้งอุตสาหกรรม" พร้อมเสริมว่า "หัวเว่ยจะเดินหน้าลงทุนในด้านต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่อ, การประมวลผล, การจัดเก็บข้อมูล และระบบคลาวด์"
"เราตั้งเป้าที่จะมอบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแก่ลูกค้าของเราซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พร้อมคุณภาพสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เป้าหมายของเราคือการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลใน 4 ขั้นตอน ได้แก่ เปลี่ยนการดำเนินงานเป็นระบบดิจิทัล สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล เปิดใช้ระบบอัจฉริยะที่ใช้แพลตฟอร์มเป็นฐาน และนำระบบอัจฉริยะมาใช้ ถึงเวลาแล้วที่จะเติบโตไปด้วยกันในอนาคตดิจิทัลโฉมใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้"
คุณเมิ่งได้แชร์ 3 ประเด็นสำคัญจากประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่สั่งสมมาเกือบ 10 ปีของหัวเว่ย "ประการแรก กลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญ โดยพื้นฐานแล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์และตัวเลือกเชิงกลยุทธ์ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ ไม่ใช่เทคโนโลยี"
"ประการที่สอง ข้อมูลคือรากฐาน" คุณเมิ่งกล่าวเสริม "ข้อมูลจะสร้างคุณค่าได้ก็ต่อเมื่อมันไหลเวียนไปทั่วองค์กร ดังนั้น การกำกับดูแลข้อมูลอย่างมีระเบียบแบบแผนจึงเป็นกุญแจสำคัญ การบูรณาการข้อมูลจากด้านต่าง ๆ จะยิ่งสร้างคุณค่ามากขึ้นไปอีก"
"ประการที่สาม ระบบอัจฉริยะคือเป้าหมายปลายทาง ข้อมูลกำลังกำหนดนิยามใหม่ของประสิทธิภาพการทำงาน การเปลี่ยนการดำเนินงานเป็นระบบดิจิทัลและการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยสะสาง แสดงภาพ และรวบรวมข้อมูล ซึ่งวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การนำระบบอัจฉริยะมาใช้งานทำให้เข้าถึงข้อมูลได้แบบออนดีมานด์ เข้าใจได้ง่ายขึ้น และนำไปปฏิบัติได้จริง เป็นการยกระดับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไปอีกขั้น"
ดร.โจว หง (Zhou Hong) ประธานสถาบันวิจัยเชิงกลยุทธ์ของหัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาเช่นกัน โดยบอกเล่าถึงสมมติฐานและวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยสำหรับโลกอัจฉริยะในอนาคต และให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการที่เราสามารถเปลี่ยนประสบการณ์ให้เป็นความรู้ที่มีโครงสร้าง รวมถึงการวางรากฐานสำหรับระบบอัจฉริยะ
"การพิจารณาแนวทางสำหรับเครือข่ายและการประมวลผลใหม่นั้นเป็นสิ่งสำคัญขณะที่เราก้าวไปสู่โลกอัจฉริยะ" ดร.โจว กล่าว "ในแง่เครือข่าย เรามีความสามารถในการก้าวข้ามขีดจำกัดของทฤษฎีบทแชนนอน (Shannon's theorems) เช่นเดียวกับการประยุกต์ทฤษฎีของเขา เพื่อผลักดันขีดความสามารถด้านเครือข่ายให้เพิ่มขึ้น 100 เท่าในทศวรรษหน้า ส่วนในด้านการประมวลผล เราจะก้าวไปสู่โมเดลใหม่ สถาปัตยกรรมใหม่ และส่วนประกอบใหม่ ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถของเราในการทำความเข้าใจและควบคุมระบบอัจฉริยะ นอกจากนี้ เรายังจะเดินหน้าสำรวจการใช้ AI สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ ต่อไป"
หลังจบการปาฐกถา 2 รายการ ก็ตามมาด้วยการอภิปรายหมู่เกี่ยวกับบทบาทของผลิตภาพดิจิทัลต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ระบบดิจิทัล ความท้าทายที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญในกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ขั้นตอนที่แนะนำ และความคาดหวังสำหรับอุตสาหกรรมในกระบวนการสร้างผลิตภาพดิจิทัล ผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย คุณหลี่ เผิง (Li Peng) หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญจากไชน่า เซาเทิร์น พาวเวอร์ กริด คอร์เปอร์เรชั่น (China Southern Power Grid Corporation) และกรรมการผู้จัดการของบริษัทดิจิทัล พาวเวอร์ กริด กรุ๊ป (Digital Power Grid Group), คุณเหลียง หย่งจี้ (Liang Yongji) ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิศวกรรมและเทคโนโลยีของการท่าอากาศยานฮ่องกง, คุณหลิว ฮง (Liu Hong) หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของจีเอสเอ็มเอ (GSMA) ในเกรทเตอร์ ไชน่า และคุณชาร์ลส์ รอสส์ (Charles Ross) หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและสังคมจากอีโคโนมิสต์ อิมแพค (Economist Impact)
ปี 2566 ถือเป็นการครบรอบ 20 ปีการประชุมสุดยอดนักวิเคราะห์โลก โดยในปีนี้มาพร้อมกับการประชุมย่อยต่าง ๆ หลายรายการ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19-20 เมษายน
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.huawei.com/en/events/has
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2058328/photo.jpg
คำบรรยายภาพ - คุณซาบรีนา เมิ่ง กล่าวในงาน HAS 2566
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit