บริษัท ดีทีจีโอ พรอสเพอร์รัส (DTP) ในเครือ MQDC (บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ซึ่งอยู่ในบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DTGO) ประกาศแผนการลงทุนและระดมทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้น 4 กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโต ทั้งในด้านการลงทุน บริหารสินทรัพย์ กองทุน และการลงทุนในธุรกิจเชิงนวัตกรรม ผ่าน 3 กลยุทธ์การลงทุน มุ่งมั่นก้าวสู่บริษัทด้านการลงทุนระดับโลก เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม และสานต่อวิสัยทัศน์ในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายหรรสา สุสายัณห์ ประธานกรรมการ บริษัท ดีทีจีโอ พรอสเพอร์รัส จำกัด (DTP) เปิดเผยว่า DTP เป็นบริษัทในเครือ MQDC ภายใต้กลุ่ม DTGO ซึ่งมีเป้าหมายเป็นบริษัทด้านการลงทุนระดับสากล ด้วยการลงทุนและระดมทุนทั่วโลก พุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สิน และ อสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและก่อให้เกิดรายได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการลงทุนเชิงนวัตกรรม เพื่อการขยายฐานการลงทุนที่หลากหลาย สอดคล้องกับพันธกิจของกลุ่ม DTGO ที่ต้องการทำธุรกิจเพื่อดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ DTP จัดตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นบริษัทด้านการลงทุนและระดมทุนของกลุ่ม DTGO เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจเพื่อดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของกลุ่ม DTGO ที่ได้กำหนดเป็นนโยบายให้มีการจัดสรรงบ 2% ของรายได้ เพื่อใช้ในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดโดยปัจจุบัน DTP วางโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
นายฐิติ ทองเบญจมาศ ประธานอำนวยการ DTP กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการลงทุนทั้ง 4 กลุ่มในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยในช่วง 2 ปีข้างหน้า บริษัทจะมองหาโอกาสการลงทุนจากอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพจากทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตทั้งในยุโรป อเมริกา เอเชีย รวมถึงตะวันออกกลาง ซึ่งมีความน่าสนใจในการเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านนวัตกรรมการเงิน รวมทั้งในประเทศไทยยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับกลยุทธ์ด้านการลงทุนของ DTP ให้ความสำคัญใน 3 ด้านหลัก คือ 1. Business Synergy หรือการลงทุนที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดทางธุรกิจ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่ม DTGO ได้ 2. Monetization เป็นการลงทุนในทรัพย์สินที่สามารถพัฒนาให้เติบโต ขายเพื่อเพิ่มรายได้ หรือสามารถนำไประดมทุนผ่านกองทุนฯ หรือเครื่องมือการเงินต่างๆ ได้ เพื่อนำเงินกลับมา สร้างโอกาสในการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง (Re-Investment Opportunity) 3. Risk Diversification ต้องเป็นการลงทุนที่ช่วยกระจายความเสี่ยง ทั้งในประเภททรัพย์สินที่เข้าไปลงทุน มีการกระจายโลเคชั่นเข้าไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพต่างๆ ของโลก รวมทั้งกระจายความเสี่ยงด้าน financial risk อีกด้วย
"เราเน้นการบริหารธุรกิจแบบ Asset Light ลดการถือครองสินทรัพย์โดยหาพันธมิตรที่มีความสนใจในเรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นผู้ร่วมลงทุน เพื่อให้เราสามารถบริหารธุรกิจแบบตัวเบา เน้นการเข้าไปช่วยสนับสนุนด้านการบริหาร การช่วยเหลือสังคมในทุกๆ ที่ที่เราเข้าไปลงทุนตามพันธกิจของกลุ่ม DGTO ที่ต้องการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง" นายฐิติกล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit