บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดกำไรงวด 9 เดือนแตะ 3,590.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 756.11% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.7% ทำสถิติสูงสุดใหม่ ด้านบิ๊กบอส "วินัย เตียวสมบูรณ์กิจ" เผยภาพรวมธุรกิจสดใสต่อเนื่อง ประเมินโค้งสุดท้ายดีมานด์ไก่ และสุกรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พอใจการบริหารจัดการต้นทุนทำได้ดีมาก และมั่นใจว่าสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทต่อไป โดยคาดการณ์ว่าราคาขายยืนสูงต่อได้อีกจากสภาวะตลาดที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจค้าปลีก"ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรชมาร์เก็ต" สร้างรายได้ดีจากการขยายสาขาในช่วง 2 ปีนี้กว่า 220 สาขา จำหน่ายสินค้าที่สด สะอาด ส่งตรงจากโรงงานทุกวัน และได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า
นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 37,212.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.38% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 3,590.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 756.11% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนและเป็นระดับสูงสุดใหม่
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3 ของปี 2565 มีรายได้รวม 14,796.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.55% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 1,733.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 480.53% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2565 เท่ากับ 11.7% เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากที่ผ่านมาในไตรมาส 1 ที่เท่ากับ 5.9% และไตรมาส 2 ที่เท่ากับ 10.0% ซึ่งเป็นอัตรากำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
"ผลงาน 9 เดือนปีนี้ มีกำไรแตะออลไทม์ไฮ ส่วนของรายได้ มีดีมานด์ เพิ่มขึ้นทั้งส่วนของในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการด้านต้นทุนที่ดี ถึงแม้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์และค่าขนส่งค่อนข้างสูง แต่บริษัทมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ศึกษาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทดแทนเพื่อควบคุมต้นทุน และมีการปรับพอร์ตการจำหน่ายสินค้า เพื่อเพิ่มรายได้ โดยขยายช่องทางการจำหน่าย จะเห็นได้จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเร่งเปิดสาขาร้านไทยฟู้ดส์ เฟรชมาร์เก็ต โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ บริษัทก็จะมีสาขาทั้งหมด 220 สาขา ซึ่งช่วยกระจายสินค้าให้ถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น และได้รับผลตอบรับที่ดี โดยบริษัทยังมีแผนขยายสาขาต่อ ซึ่งมั่นใจว่าการบริหารจัดการนี้จะส่งผลให้บริษัทจะเติบโตไปอย่างมั่นคง "
แนวโน้มธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าธุรกิจไก่และสุกรจะยังเติบโตได้ดี เนื่องจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ Demand สูงทั้งไก่และสุกร ประกอบกับต้นทุนราคาค่าขนส่งที่เริ่มปรับตัวลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 กลุ่มบริษัทฯจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 25%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit