กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำทีมร่วมประชุมเจรจาจัดทำ FTA ไทย - EFTA รอบ 2 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ การหารือคืบหน้าด้วยดี อาทิ การค้าสินค้า การค้าบริการและการลงทุน มาตรการเยียวยาทางการค้า กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และทรัพย์สินทางปัญญา สองฝ่ายตั้งเป้าเจรจาสรุปผลภายใน 2 ปี ด้านไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุมเจรจารอบ 3 ต้นปีหน้า
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 1 - 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ นับตั้งแต่ไทยและ EFTA ซึ่งประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ประกาศเปิดการเจรจาเมื่อเดือนมิถุนายน 2565
นางอรมน เพิ่มเติมว่า สำหรับการเจรจารอบที่ 2 เป็นการหารือทั้งในระดับหัวหน้าคณะเจรจา โดยฝั่ง EFTA นำโดยนายมาร์คัส เชอร์ลาเกนฮอฟ เอกอัครราชทูตผู้แทนความตกลงการค้าของสมาพันธรัฐสวิสและหัวหน้าฝ่ายการค้าโลกภายใต้คณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจต่างประเทศ และการหารือกลุ่มย่อยในประเด็นต่าง ๆ เช่น การค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน การแข่งขัน มาตรการเยียวยาทางการค้า กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทรัพย์สินทางปัญญา การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน ความร่วมมือทางเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ และการระงับข้อพิพาททางการค้า เป็นต้น ซึ่งการหารือมีความคืบหน้าด้วยดี ทั้งสองฝ่ายยังคงมุ่งมั่นที่จะเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายใน 2 ปี ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับการเจรจารอบที่ 3 ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดในเดือนมกราคม 2566
ทั้งนี้ ในปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับ EFTA อยู่ที่ 7,506.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (280,490.72 ล้านบาท) และในช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2565) การค้าระหว่างไทยและ EFTA มีมูลค่า 9,129.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (341,263.24 ล้านบาท) ไทยส่งออกไป EFTA มูลค่า 3,312.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (123,841.74 ล้านบาท) สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และไทยนำเข้าจาก EFTA มูลค่า 5,879.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (219,958.57ล้านบาท) สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ และเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค
HTML::image(