คิงส์เมน "K" สบช่องปี 66 เตรียมผงาด ผลงานแกร่ง ส่อแววเทิร์นอะราวด์ ส่งซิกปี 65 คึก Motor Expo 2022 ดันรายได้ ส่อแววแตะ 700 ลบ.

04 Jan 2023

บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ "K" เดินเกมรุก ปักธงปี 2566 โชว์ผลงานเทิร์นอะราวด์ วางเป้ารายได้ที่ 780 ล้านบาท พร้อมซุ่มเจรจารับงาน Pop-Up Store แบรนด์ลักซ์ชัวรี่ รายใหญ่ 3-4 ราย จ่อเตรียมรับงาน Motor Show เชื่อโกยรายได้เข้ากระเป๋ากว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ส่งท้ายปี2565ที่ผ่านมา ชี้งาน Motor Expo 2022 คึกคัก ดันรายได้การจัดพื้นที่พุ่งทะลุเป้าหมาย 120 ล้านบาท ทยอยบุ๊กไตรมาส 4/65 ทั้งหมด มั่นใจปี65 รายได้รวมแตะกว่า 700 ล้านบาท

คิงส์เมน "K" สบช่องปี 66 เตรียมผงาด ผลงานแกร่ง ส่อแววเทิร์นอะราวด์ ส่งซิกปี 65 คึก Motor Expo 2022 ดันรายได้ ส่อแววแตะ 700 ลบ.

นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้จัดการด้านสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ จำกัด (มหาชน) "K" ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท ดังนี้ 1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors), 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ โดยการลดสัดส่วนงานตกแต่งภายใน (Interiors) ในโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายและต้นทุนในส่วนงานดังกล่าวลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้บริษัทฯสามารถลดภาระทางการเงินต่างๆ ได้บางส่วน ขณะเดียวกันในปี 2566 บริษัทฯจะหันมาเน้นรับงาน Interiors ที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นความถนัดของบริษัทฯ

"ในปี2566 สัดส่วนงาน Interiors ของเราจะลดลง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราได้ได้รับงานในโครงการขนาดใหญ่ เช่น ในกลุ่มโรงแรม และโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการนาน การที่เราขยายไปรับงาน Interiors โครงการใหญ่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา เพราะเราต้องการกระจายความเสี่ยงจากการถูกดิสรัปชัน (Disruption) จากการที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ปัจจุบันก็เห็นแล้วว่าประชาชนยังต้องการที่จะเห็นของจริง ต้องการไปสัมผัสในพื้นที่จัดงาน ดังนั้น งานตกแต่งภายในงานจึงฟื้นตัวขึ้น และในปี 2566 บริษัทฯจะหันมาเน้นรับงาน Interiors ระยะสั้น - กลาง มากขึ้น เนื่องจากมีมาร์จิ้นที่ดี ที่การหมุนรอบของเงินทำได้เร็วกว่าโครงการขนาดใหญ่ อีกทั้ง ยังเป็นงานในกลุ่มที่บริษัทฯมีความถนัดด้วย" นายวงศกร กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 780 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ มาจาก 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มงาน Interiors ประมาณ 15-20% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) และงาน Event (อีเว้นท์)

โดยล่าสุด บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาเข้ารับงาน Exhibition ประเภท Pop-Up Store ในกลุ่มแบรนด์ลักซ์ชัวรี่รายใหญ่ (งานออกร้านต่างๆ ที่จะจัดในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นพื้นที่ให้แบรนด์นำเสนอความโดดเด่นในแบบของตัวเอง) จำนวน 3-4 แบรนด์ดัง โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี2566นี้

ทั้งนี้ จากปัจจัยเชิงบวกในข้างต้น สามารถการันตีให้เห็นว่า ในปี 2566 "K" ยังคงเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ และจะสามารถเทิร์นอะราวด์ (Turnaround) ได้อย่างแน่นอน หลังจากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างในส่วนของงาน Interior ให้สอดรับกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ประกอบกับเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยสะท้อนให้เห็นจากงาน Motor Expo 2022 ในช่วงที่ผ่านมา มีความคึกคักมาก และมียอดจองภายในงานกลับมาเกือบเท่าระดับเดิมในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ส่งผลให้ภายในงานดังกล่าว บริษัทฯมีรายได้จากการจัดงานทั้งในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง และการจัดบูธพิเศษ (เฉพาะค่าย) ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 120 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในไตรมาส 4/2565 ทั้งหมด

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 จะมางานใหญ่ อย่างงาน Motor Show ซึ่งบริษัทฯจะเข้ารับงาน ในส่วนการจัดบูธพิเศษเท่านั้น โดยเบื้องต้นได้วางเป้าหมายจะมีรายได้จากงานดังกล่าว ประมาณ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วงานใหญ่ อย่างMotor Expo และงาน Motor Show บริษัทฯจะมีรายได้เฉลี่ย ที่ประมาณ 100-120 ล้านบาทต่องาน ซึ่งหากรวมทั้ง 2 งาน จะส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้เข้ามาประมาณ 240 ล้านบาทต่อปี แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้รายได้ลดลงเหลือ ระดับ 60-80 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2566 บริษัทฯเชื่อว่าจากเศรษฐกิจที่กลับมาดีขึ้น จะทำให้แบรนด์ต่างๆ กลับมาจัดงาน Event แบบคึกคัก ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทฯซึ่งอยู่ในฐานะผู้ประกอบการด้านการออกแบบและตกแต่งภายในงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 บริษัทฯเชื่อมั่นว่า จะมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้รวมกว่า 700 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ในปีดังกล่าว จะมาจากกลุ่มงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) และ งาน Event (อีเว้นท์) ประมาณ 500 - 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มงานออกแบบและตกแต่ง (Interior) โดย ณ ต้นเดือน มกราคม 2566 บริษัทฯ มีงาน ในมือ (Backlog) รวมมูลค่า 250 ล้านบาท แบ่งเป็นงาน interior 15% และที่เหลือเป็นงาน E&E (Exhibition & Event) โดยจะทยอยรับรู้ในปี 2566 เกือบทั้งหมด