สภาวิศวกร หรือ COE: Council of Engineers เดินหน้าพัฒนาคุณภาพทางวิชาชีพให้วิศวกรไทย ยกระดับสู่สากลผ่าน การพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมอย่างต่อเนื่อง หรือ Continuing Professional Development (CPD) เน้นยกระดับความรู้ด้านเทคโนโลยี และอัปเดทสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่อัปสกิลให้วิศวกรที่ต้องทำงานเกี่ยวเนื่องกับประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย โดยสภาวิศวกรเปิดให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคะแนน CPD ซึ่งมีสาระสำคัญในการนำคะแนน CPD มาใช้เพื่อขอเลื่อนระดับทั้งในระดับสามัญวิศวกร และวุฒิวิศวกร รวมถึงใช้เพื่อยื่นขอใบรับรองความรู้ ความชำนาญ และต่ออายุใบรับรองความรู้ความชำนาญสาขาวิศวกรรมส่งเสริมทั้ง 17 สาขา ผ่านเว็บไซต์สภาวิศวกร ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566
รศ. ดร. ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ นายกสภาวิศวกร สมัยที่ 7 กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันวิชาชีพวิศวกรรม ต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันในกระแสในยุคดิสรัปชั่น และการค้าเสรี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความต้องการงานบริการวิชาชีพวิศวกรรมที่มีคุณภาพ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดังนั้น การพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมอย่างต่อเนื่อง หรือ Continuing Professional Development CPD จึงมีความสำคัญต่อวิศวกรไทยเป็นอย่างมาก
"แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้แม้จะยังคงอยู่ภายใต้ความผันผวน แต่ตลาดแรงงาน และหลาย ๆภาคธุรกิจยังคงมีความต้องการกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน "วิชาชีพ" หรือผู้ที่มีความถนัดเฉพาะทาง โดยหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการนำพาให้ธุรกิจ หรือแต่ละวิชาชีพให้อยู่รอดได้ในปี 2566 คือการพัฒนาตัวเอง ทั้งด้วยการหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงการอัพสกิล รีสกิลให้ทันกับบริบทความเปลี่ยนแปลงของ ภาคเศรษฐกิจ - สังคม รวมถึงความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งวิชาชีพวิศวกรรมเป็นสาขาหนึ่งที่ต้องพัฒนาความสามารถให้เท่าทันกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากทั่วโลกล้วนกำลังต้องการวิศวกรมาช่วยยกระดับประเทศทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การฟื้นฟูเมือง คมนาคม การสรรหาพลังงานทดแทนใหม่ ๆ ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีดิจิทัล ฯลฯ ทั้งนี้ นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญแล้ว สิ่งที่ต้องเพิ่มขึ้นคือการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากสิ่งที่จะพัฒนานั้นเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการในระยะยาว และก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวก"
ด้าน รศ. ดร.สุธา ขาวเธียร เหรัญญิกสภาวิศวกร กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาวิศวกรเล็งเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับความรู้ และพัฒนาทักษะของสภาวิศวกร เพื่อให้ทัดเทียมกับสากล ที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำปี 2565 จึงให้ความเห็นชอบในการนำ CPD มาช่วยพัฒนาทักษะความรู้ให้วิศวกรไทย ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มคุณภาพการปฏิบัติงานวิชาชีพให้กับวิศวกรเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนจากการปฏิบัติวิชาชีพของวิศวกรอีกด้วย สำหรับการรับคะแนน CPD สามารถทำได้หลากหลายวิธีผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ โดยคิดจำนวนชั่วโมงของการปฏิบัติกิจกรรม และให้น้ำหนักของกิจกรรมแตกต่างกันไป โดยการทำกิจกรรมนั้นต้องมีความต่อเนื่องกันตลอดระยะเวลาการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม อาทิ การเข้าร่วมอบรมสัมมนาออนไลน์ที่จัดขึ้นฟรีโดยสภาวิศวกร หรือการอบรมสัมมนาประจำปีภายในหน่วยงานของตน การอ่านหนังสือเรียนรู้ด้วยตนเอง การเป็นวิศวกรอาสา และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถเลือกทำกิจกรรมได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำงานประจำ
นอกจากนี้ สภาวิศวกร ได้ออกประกาศสภาวิศวกร เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการนำหน่วยความรู้มาใช้ให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง พ.ศ. 2565 และกำลังเปิดให้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สภาวิศวกร ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 31 มกราคม 2566 โดยมีสาระสำคัญในการนำคะแนน CPD มาใช้เพื่อขอเลื่อนระดับทั้งในระดับสามัญวิศวกร และวุฒิวิศวกร รวมถึงใช้เพื่อยื่นขอใบรับรองความรู้ ความชำนาญ และต่ออายุใบรับรองความรู้ความชำนาญสาขาวิศวกรรมส่งเสริมทั้ง 17 สาขา ทั้งนี้ สำหรับการต่ออายุใบอนุญาตของสาขาควบคุมทั้ง 7 สาขา ไม่ต้องแนบคะแนน CPD สามารถยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตได้ตามปกติ
ติดตามข่าวสารและความรู้ใกล้ตัวเกี่ยวกับงานวิศวกรรมตลอดจนความเคลื่อนไหวของสภาวิศวกร ได้ที่สายด่วน 1303 ไลน์ไอดี @coethai เพจเฟซบุ๊ก https://web.facebook.com/coethailand ช่องทางยูทูบ (YouTube Channel) สภาวิศวกร Council of Engineers Thailand และเว็บไซต์ https://coe.or.th
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit